กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--IR PLUS
เจมาร์ท มั่นใจผลงานปี 59 ตลาดมือถือโตได้อีก รับกระแส 4G แถมการออกสินเชื่อ J-Money และการเพิ่มช่องทางการขายผ่าน SINGER หนุนเป้ายอดขายทั้งปีโต 30% จากปีก่อน "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" แม่ทัพ ใหญ่ พร้อมลุยตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าขยายสาขาในประเทศปีนี้ 20 แห่ง จากสิ้นปี 58 มีสาขา 244 แห่ง แถมเตรียมขยายสาขาในเมียนมาอีก 5-7 แห่ง จากสิ้นปี 58 มีสาขา 18 แห่ง หลังโชว์ผลงานปี 58 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 9,510.99 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 322.64 ล้านบาท ที่ประชุมบอร์ดมีมติปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.47 บ./หุ้น คงคอนเซ็ปต์หุ้นปันผลเด่นต่อเนื่องมาโดยตลอด
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจปี 2559 พร้อมรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขายเจมาร์ทในปีนี้ เติบโตขึ้น 30% จากปีก่อน และคาดว่ายอดขายโทรศัพท์มือถือในปีนี้จะทำได้ราว 1.5 ล้านเครื่อง จากปี 2558 อยู่ที่ราว 1.2 ล้านเครื่อง เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มเติบโตขึ้นรับกระแสคลื่น ความถี่ 4G ที่จะเข้ามา ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเปลี่ยนโทรศัพท์มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง บริษัทฯ เตรียมออกโปรโมชั่นต่างๆ กระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะได้ร่วมกับ JMT ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในการเพิ่มช่องทางทางการเงินภายใต้แบรนด์ เจ มันนี่ (J-Money) ให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าของเจมาร์ท สามารถผ่อนสินค้าในระยะเวลาที่ยาวขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จากความร่วมมือกับ
บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ในช่วงที่ผ่านมา เจมาร์ทได้เริ่มจำหน่ายโทรศัพท์มือถือไปยังช่องทางของซิงเกอร์เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการสร้าง ความ หลากหลายในเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย และเพิ่มยอดขายให้กับเจมาร์ทได้
ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนไว้ 140 ล้านบาท แบ่งเป็น 100 ล้านบาทสำหรับขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 20 แห่งในปีนี้ จากสิ้นปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสาขาทั้งสิ้น 244 สาขา และอีก 40 ล้านบาทสำหรับกิจกรรมทางการตลาด และการออกอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย
สำหรับภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมามีแนวโน้มเติบโต อีกมาก จึงมองว่าเป็นโอกาสที่สำคัญของเจมาร์ทในการขยายธุรกิจ โดยปัจจุบัน เจมาร์ทมีสาขาในเมียนมาแล้วทั้งหมด 18 แห่ง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐย่างกุ้ง และในปีนี้คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 5-7 แห่ง สนับสนุนยอดขายต่างประเทศให้มีสัดส่วน เพิ่มขึ้น แม้ปัจจุบันยังมียอดขายไม่มากนัก เนื่องจากยังเป็นช่วงเริ่มต้นของธุรกิจ
"ในปี 2559 เจมาร์ทมั่นใจภาพรวมธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตที่ดี โดยตลาดโทรศัพท์มือถือในไตรมาส 1/59 มีแนวโน้มสดใสขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58 ที่ผ่านมา อีกทั้ง บริษัท ยังได้รับประโยชน์จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายไม่กี่รายที่ซื้อไอโฟนได้โดยตรง จากแอปเปิล สนับสนุนให้มาร์จิ้นในสินค้าดังกล่าวดีขึ้น นอกจากนี้ ภาพรวมธุรกิจบริษัทย่อยทั้ง JMT และ J มองว่า มีแนวโน้มเติบโตที่ดีต่อเนื่องเช่นกัน จึงมั่นใจ จาก Business model ที่มีความแข็งแกร่ง สนับสนุนผลงานทั้งปีไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง" นายอดิศักดิ์กล่าว
ผลการดำเนินงานงวดปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 9,510.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.19% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 8,956.98 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 322.64 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.62 บาท ลดลงเล็กน้อยจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 328.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.67 บาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติจ่ายเงินปันผล งวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.47 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 18 เมษายน 2559 และวันที่จ่ายปันผล 4 พฤษภาคม 2559
"ผลงานของบริษัทฯ ในปี 2558 ที่ออกมาใกล้เคียงกับปี 2557 เนื่องจากภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ที่ผ่านมา ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากมีสินค้ารุ่นใหม่ที่ทยอยออกสู่ ตลาด ซึ่งส่วนใหญ่มีราคาขายเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้ง การให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าเจมาร์ท ภายใต้แบรนด์ J Money ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และในช่วงปลายปี บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์จากภาครัฐที่ได้ออกแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนยอดขายทั้งปีปรับตัวดีขึ้นได้" นายอดิศักดิ์ กล่าว