'ยูพีเอส’เผยผลประกอบการไตรมาสสี่โต 10%

ข่าวทั่วไป Wednesday February 16, 2005 17:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
รายได้รวมตลอดปีทะยานกว่า 15% ผลจากกำไรระหว่างประเทศพุ่งสูงกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ปริมาณการส่งออกในเอเชียเพิ่ม 34% พร้อมทั้งปริมาณการส่งออกไปจีนโตกว่า 125%
ยูพีเอส ประเทศไทย (UPS) เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่เติบโตต่อเนื่อง กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.76 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่ของปี 2546 รายได้รวมตลอดทั้งปี 2547 มีมูลค่าถึง 36,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นถึง 15%
สำหรับไตรมาสที่สี่ของปีซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 รายรับรวมของยูพีเอสมีมูลค่าถึง 9,840 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 403,440 ล้านบาท) โดยมีรายได้เติบโตเป็นอัตราตัวเลข 2 หลัก ในส่วนของการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศและธุรกิจบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับพัสดุ และรายได้เพิ่มขึ้น 6.6% ในส่วนของการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับไตรมาสที่สี่ ปริมาณการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ทั่วโลก เพิ่มขึ้น 3.7% เป็น 963 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 39,483 ล้านบาท) ในขณะที่ปริมาณการจัดส่งพัสดุภัณฑ์รายวันเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 15.5 ล้านชิ้น หรือเพิ่มขึ้นวันละ 297,000 ชิ้น โดยปริมาณการส่งออกระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 13.5% ซึ่งธุรกิจ U.S. Next Day Air เพิ่มขึ้น 4.1% ในขณะที่ปริมาณการจัดส่งภาคพื้นดินในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 1.5%
มร. สกอตต์ เดวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของยูพีเอส กล่าวว่า “ธุรกิจการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ขนาดเล็กของยูพีเอสยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และปี 2547 นับเป็นปีทองของธุรกิจประเภทนี้ เพราะเราสามารถจัดส่งพัสดุภัณฑ์ได้เกือบ 3,600 ล้านชิ้น ซึ่งมีปริมาณมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างไรก็ตาม ปริมาณการจัดส่งภาคพื้นดินในสหรัฐอเมริกา ยังมีอัตราการเติบโตในระดับที่ไม่น่าพอใจนัก ดังนั้น ในอนาคต
เราจะมุ่งเน้นการปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ ในส่วนของการให้บริการในสหรัฐอเมริกา”
สำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2547 กำไรต่อหุ้นเมื่อปรับลงมาอยู่ที่ราคาตลาด อยู่ที่ระดับ 0.82 เหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับราคาที่ปรับแล้ว 0.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
ความสำเร็จและการเติบโตในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของยูพีเอสในช่วงไตรมาสที่สี่ มีดังนี้
- รายได้จากการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 23% เป็น 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 77,900 ล้านบาท) อันเนื่องมาจากปริมาณการส่งออกเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้น 13.5%
โดยภาพรวม ปริมาณการจัดส่งเฉลี่ยรายวันเพิ่มขึ้น 5.6% ในขณะที่ปริมาณการส่งออกในภูมิภาคเอเชีย
ขยายตัว 34% เนื่องจากปริมาณการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นกว่า 125% หากไม่นับรวมค่าเสื่อมราคาของเครื่องบิน กำไรจากการประกอบการในเซ็กเม้นท์นี้ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 40% คิดเป็นมูลค่า 337 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 13,817 ล้านบาท) กำไรจากการประกอบการโดยรวมตลอดทั้งปีในเซ็กเม้นท์นี้ เพิ่มสูงกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น ในขณะที่อัตราผลกำไรจากการประกอบการเพิ่มขึ้นถึง 220 จุด คิดเป็น 18.1%
- รายได้จากการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 6.6% เป็น 7,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 291,100 ล้านบาท) กำไรจากการประกอบการเพิ่มขึ้น 1% เป็น 919 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 37,679 ล้านบาท) และอัตราผลกำไรจากการประกอบการอยู่ที่ 13% ปริมาณการจัดส่งภาคพื้นดินเฉลี่ยรายวันในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 1.5% ปริมาณการจัดส่งของธุรกิจ U.S. Next Day Air เพิ่มขึ้น 4.1% รายได้เฉลี่ยต่อพัสดุเพิ่มขึ้นในทุกประเภทการให้บริการ โดยเฉพาะมูลค่าเฉลี่ยต่อพัสดุโดยรวมภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 3.2 %
- รายได้จากธุรกิจบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับพัสดุ เพิ่มขึ้น 16.6% เป็น 880 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 36,080 ล้านบาท) โดยธุรกิจในส่วนของธุรกิจซัพพลายเชน (UPS Supply Chain Solutions) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.6% ซึ่งอัตราการเติบโตของรายได้ในเซ็กเม้นท์นี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้วยูพีเอสได้เข้าไปซื้อกิจการของเมนโล เวิลด์ไวด์ ฟอร์วาร์ดดิ้ง (Menlo Worldwide Forwarding) ซึ่งจะช่วยรับประกันการจัดส่งที่ตรงเวลาและเสริมสร้างความมั่นใจให้ทั่วโลกได้รับรู้ถึงศักยภาพในด้านการขนส่งสินค้าน้ำหนักมากทางอากาศของยูพีเอสมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการตลอดทั้งปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทฯ มีรายได้รวม 36,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,500,600 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9.2% กำไรจากการดำเนินงานรวม 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 205,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 12.2% รายได้สุทธิคิดเป็น 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 135,300 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15% จาก 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปี 2546
หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายจากรายการต่างๆ กำไรจากการประกอบการตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นถึง 16.1% เป็น 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 213,200 ล้านบาท) รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 19.1% เป็น 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 135,300 ล้านบาท) ในขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.90 เหรียญสหรัฐฯ จากที่ระดับ 2.44 เมื่อเทียบกับปี 2003
มร. สกอตต์ เดวิส กล่าวว่า สำหรับในปี 2548 บริษัทฯ คาดหวังการเติบโตเพิ่มขึ้น สำหรับการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศน่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมทั้งปริมาณการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนรายได้จากการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะโตขึ้น 2-3% สำหรับปีที่มีการปรับอัตรา ผลกำไรจากการประกอบการ ในขณะที่ธุรกิจซัพพลายเชน (UPS Supply Chain Solutions) คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ อันเนื่องมาจากการเข้าไปซึ้อกิจการของเมนโล เวิลด์ไวด์ ฟอร์วาร์ดดิ้ง (Menlo Worldwide Forwarding) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าว่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้นรวมตลอดทั้งปี 2548 น่าจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 13-17% ซึ่งมากกว่าระดับ 2.90 เหรียญสหรัฐฯ ในช่วงปี 2547 เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินยังกล่าวด้วยว่า ในปี 2547 ยูพีเอสมีกระแสเงินสดหมุนเวียนถึง 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2548 บริษัทฯ ยังคงมีกระแสเงินสดหมุนเวียนเพิ่มขึ้นต่อไป
สำหรับในไตรมาสแรกของปี 2548 ยูพีเอสประมาณการว่ากำไรต่อหุ้นน่าจะอยู่ที่ช่วง 0.70 — 0.75 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.67 เหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปี 2547 มร. สกอตต์ เดวิส กล่าวสรุปว่า “ในปี 2547 ธุรกิจของยูพีเอสมีการเติบโตในทุกเซ็กเม้นท์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งภาคพื้นดิน การจัดส่งทางอากาศ และการจัดส่งระหว่างประเทศ และบริษัทฯ ยังสามารถจัดส่งพัสดุภัณฑ์ได้มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในปี 2548 ธุรกิจของเรายังมีแนวโน้มไปในทางที่ดี เราเชื่อมั่นในศักยภาพของเราที่จะสามารถรักษาระดับการเติบโของผลประกอบการไว้ได้เช่นในปี 2547 การซื้อกิจการของเมนโล เวิลด์ไวด์ ฟอร์วาร์ดดิ้ง (Menlo Worldwide Forwarding) ซึ่งมีพนักงานขายถึง 400 คน และข้อตกลงที่จะเข้าไปควบคุมการดำเนินงานด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศโดยตรงในประเทศจีน ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ยูพีเอสสามารถดำเนินกลยุทธ์เพื่อเพิ่มการเติบโตในระดับระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี”
มร. เคน โทรอค ประธานบริษัทยูพีเอส ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ยูพีเอสยังคงขยายศักยภาพของเราในเอเชียอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะในประเทศจีน เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในด้าน Synchronize commerce ของเรา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด ในไตรมาสที่แล้ว นอกเหนือจากการเข้าไปควบคุมการดำเนินงานด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศโดยตรงในประเทศจีนแล้ว เรายังได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินใหม่ 6 เที่ยวแรก จาก 12 เที่ยวไปยังประเทศจีน และยังประกาศสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ-380 อีก 10 ลำ ซึ่งจะทำให้เราสามารถบินตรงจากเมืองหลักๆ ของเอเชียไปยังศูนย์กระจายสินค้าทางอากาศของยูพีเอสในสหรัฐอเมริกาได้”
“ยูพีเอส” เป็นบริษัทจัดส่งพัสดุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้นำโลกในธุรกิจบริการ Supply Chain ที่ให้บริการหลากหลายครบวงจรที่เชื่อมโยงขับเคลื่อนให้ “สินค้า ข้อมูลและเงินทุน” ไปในทิศทางเดียวกัน
บริษัทยูพีเอส มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแอตแลนต้า มลรัฐจอร์เจีย และมีศูนย์จัดส่งและให้บริการในกว่า
200 ประเทศและเขตการปกครองต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ “ยูพีเอส” ยังเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารของ “ยูพีเอส” ได้ที่ UPS.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เสาวภา สุคันธี (saowapa.sukuntee@ogilvy.com)
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด โทร. 0 2632 8300-7
พงศ์ชยุต ลดาวัลย์
บริษัท ยูพีเอส พาร์เซล ดีลิเวอร์รี่ เซอร์วิส จำกัด โทร. 0 2712 3090--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ