กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--กฟน.
นายนิคม นาคทรัพย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยถึง กรณีที่ประชาชนสงสัยเรื่องค่าไฟฟ้าแพงขึ้นในเดือนเมษายนโดยเข้าใจว่า มีการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าและปรับค่าเอฟทีหรือค่าไฟฟ้าผันแปรเพิ่มขึ้น ทั้งนี้โดยข้อเท็จจริงแล้วในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2544 ยังไม่มีการปรับอัตราค่าไฟฟ้าแต่อย่างใด โดยอัตราค่าไฟฟ้ายังใช้อัตราค่าไฟฟ้าเดิม ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2543 ส่วนค่าเอฟทีก็ยังคงเป็นค่าเดิมที่ใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ คือ 24.44 สตางค์ต่อหน่วย
ในส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ร้องเรียน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ซึ่งผู้ใช้ไฟฟ้าส่วนนี้จะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภททำความเย็น เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือตู้เย็น ตั้งแต่ 1 เครื่องขึ้นไป ซึ่งตามปกติของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ ในช่วงฤดูร้อน เครื่อง- ปรับอากาศและตู้เย็นจะทำงานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น แม้ว่าจะตั้งอุณหภูมิเท่าเดิมและเปิดใช้ในระยะเวลาเท่าเดิมก็ตาม
สำหรับความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดในพื้นที่รับผิดชอบของกฟน. ช่วงเดือนเมษายน 2544 มีความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดถึง 6,228.58 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นสถิติสูงกว่าทุกปี ในขณะที่เดือนเมษายน ปีที่แล้ว ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 5,799.70 เมกะวัตต์ ดังนั้น สถิติการใช้ไฟฟ้าในปีนี้ เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่า มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ ปีนี้ สภาพอากาศร้อนอบอ้าวมาก สำหรับความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดในเดือนพฤษภาคม ลดลงเหลือ 5,873.22 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะลดลงอีกเนื่องจากสภาพอากาศมีอุณหภูมิลดลงและเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน
สำหรับการใช้เครื่องปรับอากาศในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิต่างกันมาก เช่นในฤดูร้อนกับฤดูหนาวจะมีผลต่อการใช้ไฟฟ้าต่างกันมาก เพราะในสภาพอากาศร้อน เครื่องปรับอากาศจะทำงานมากกว่า เนื่องจากใช้เวลาในการลดอุณหภูมิห้องนานกว่า ถ้าอุณหภูมิภายนอกที่เปลี่ยนไป 1 องศาเซลเซียส เครื่องปรับอากาศจะใช้ไฟฟ้าแตกต่างกันอย่างน้อยถึง 10 เปอร์เซ็นต์
ในสภาวะการณ์เช่นนี้ สิ่งที่ทำได้คือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือวิธีปฏิบัติที่เคยชิน บางอย่าง เช่น การใช้เครื่องปรับอากาศ เคยตั้งอุณหภูมิความเย็นไว้ต่ำ ๆ ก็ควรเปลี่ยนมาตั้งไว้ที่ 25 — 26 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกัน ควรเรียกช่างมาทำความสะอาดและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะที่ผ่านมา เมื่อ กฟน.แนะนำให้ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ ปรากฏว่าค่าไฟฟ้าลดลงไปกว่าเดิมได้มาก เพราะเครื่องปรับอากาศที่สกปรก จะทำให้การถ่ายเทความเย็นไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น ค่าไฟฟ้าก็สูงตามขึ้นไปด้วย
รองผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้านครหลวง กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีข่าวค่าไฟฟ้าที่ทำการพรรคชาติไทยสูงผิดปกติ การไฟฟ้านครหลวง ได้ส่งพนักงานออกไปตรวจสอบ ณ ที่ทำการพรรคชาติไทย พบว่ามิเตอร์ทำงานปกติ และได้ชี้แจงรายละเอียดให้กับผู้รับผิดชอบทราบจนเป็นที่เข้าใจ และขอยืนยันว่า ทางพรรคชาติไทยไม่ได้ปฏิเสธการจ่ายค่าไฟฟ้าแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ การไฟฟ้านครหลวงจะได้ส่งหนังสือชี้แจงถึงหัวหน้าพรรค ท่านบรรหาร ศิลปอาชา เพื่อเรียนให้ทราบถึงข้อเท็จจริง อีกทางหนึ่งด้วย--จบ--
-อน-