กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--IR PLUS
PYLON บอร์ดไฟเขียวปันผลให้ผู้ถือหุ้น 0.53 บาทต่อหุ้น "ชเนศวร์ แสงอารยะกุล" บอสใหญ่ ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากปี 59 จะเริ่มคึกคัก ทั้งงานภาครัฐและเอกชนเตรียมงบลงทุนเพียบ ไม่ว่าจะเป็นงานสนามบินสุวรรณภูมิส่วนต่อขยาย รวมถึงงานรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง-ส้ม จ่อคิวรอประมูลครึ่งปีหลัง ปัจจุบันตุน Backlog ไว้ในมือแล้วประมาณ 600 ลบ. ทยอยรับรู้รายได้ปี 59 นี้ 90% แถมอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มอีกราว 1,000 ลบ. คาดมีโอกาสได้รับงาน 25 – 30% หนุนรายได้ปีนี้โตต่อเนื่อง
นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.53 บาท จากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. -31 ธ.ค. 2558 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 15 มี.ค. 2559 และวันที่จ่ายปันผล 19 พ.ค. 2559
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯและบริษัทย่อยในงวดปี 2558 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการรับจ้าง 1,221.31 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 146.56 ล้านบาท หรือลดลง 10.71% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,367.87 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 201.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.36 ล้านบาท หรือ 3.25% จากปีก่อนที่มีกำไร 195.55 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา รายได้ลดลงเป็นผลจากการหยุดการดำเนินงานของบริษัทย่อย ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการใช้กำลังการผลิตของเครื่องจักรงาน Jet Grouting เพิ่มขึ้น" นายชเนศวร์ กล่าว
นายชเนศวร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2559 โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงครึ่งปีหลังนี้ เป็นปีที่ PYLON มีโอกาสในการเข้าประมูลงานจากการผลักดันโครงการเมกกะโปรเจกต์ ขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟฟ้าสายใหม่จำนวน 3 สาย โครงการส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟรางคู่ สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมฐานราก มองว่าในอนาคตยังสามารถ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย ต่างๆ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่ง สำคัญ และจำเป็นในการขับ เคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมีความมั่นใจ ว่าภาครัฐจะ พยายามผลักดัน โครงการต่างๆให้ เกิดขึ้นอย่าง เป็นรูปธรรมได้แน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมในปี 59 กลับมาฟื้นตัวได้ และจะมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี
โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) 600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปี 59 ประมาณ 90% นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลประมูลงานมูลค่าราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ โดยคาดว่าประมาณ 25-30% ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตอย่างต่อเนื่อง