กอปภ.ก ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ เน้นบริหารจัดการน้ำ-เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เน้นลดผลกระทบภัยแล้งอย่างยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Wednesday March 2, 2016 15:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--กระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) อำนวยการติดตาม ซักซ้อมการเฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ภัยแล้ง ครั้งที่ 8/2559 เน้นย้ำจังหวัด ตรวจสอบปริมาณน้ำของแหล่งน้ำในพื้นที่ สำรวจจุดเสี่ยงประสบภัยแล้งซ้ำซาก เน้นการจัดหาน้ำสนับสนุนพื้นที่ขาดแคลน พร้อมจัดชุดเฝ้าระวังป้องกันมิให้มีการปิดกั้นและลักลอบสูบน้ำไปใช้งานผิดประเภท ส่วนจังหวัดที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำประปา ให้เพิ่มความเข้มข้นในการรณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด เตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรองสำหรับสูบน้ำเข้าแหล่งกักเก็บ ส่วนจังหวัดที่ภัยแล้งรุนแรงเกิดขีดความสามารถให้ประสานขอรับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์จากส่วนกลาง เพื่อปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 12 จังหวัด 46 อำเภอ 216 ตำบล 1,893 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 2.53ของหมู่บ้านทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา สุโขทัย นครสวรรค์ นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์กาญจนบุรี เพชรบุรี และสระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดตรวจสอบปริมาณน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ และแหล่งน้ำตามธรรมชาติในพื้นที่ พร้อมสำรวจจุดเสี่ยงที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก เพื่อวางแผนรับมือและจัดสรรน้ำให้เพียงพอต่อการใช้งาน กรณีแหล่งน้ำสำรองไม่เพียงพอ เน้นการจัดหาน้ำสนับสนุนเพิ่มเติม ด้วยการนำน้ำใต้ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ การสูบน้ำสนับสนุนแหล่งน้ำดิบ พร้อมใช้รถบรรทุกน้ำจัดส่งน้ำให้กับพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยแบ่งมอบพื้นที่ในการดูแลรับผิดชอบอย่างชัดเจน อีกทั้งใช้กลไกของฝ่ายปกครอง ทั้งนายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงจัดชุดปฏิบัติการสำรวจเส้นทางการไหลของน้ำ เพื่อป้องกันมิให้มีการปิดกั้นและลักลอบสูบน้ำนำไปใช้ผิดประเภทจนส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาและน้ำในการผลักดันน้ำเค็ม สำหรับจังหวัดที่มีสาขาการประปาส่วนภูมิภาคเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำการผลิตน้ำประปา 11 สาขา และเฝ้าระวัง51 สาขา อยู่ในพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มข้นในการรณรงค์ให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมจัดหาแหล่งน้ำสำรองสำหรับสูบน้ำเข้าแหล่งกักเก็บ และเร่งกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่การกักเก็บน้ำและให้น้ำไหลได้อย่างสะดวกมากขึ้น ส่วนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนน้ำเป็นพิเศษ ได้แก่ บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีการเพาะเลี้ยงปลาในกระชังเป็นจำนวนมาก ให้กำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง และเกิดขีดความสามารถของจังหวัด สามารถขอรับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งจากส่วนกลาง พร้อมให้รายงานสถานการณ์แนวทางการแก้ไขปัญหาต่อกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ท้ายนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำที่มีจำกัดอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งจนถึงช่วงต้นฤดูฝน รวมถึงประเทศไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งนี้ในปีนี้ไปได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน 0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ