กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 02 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,225.00-1,233.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,820 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 21,030 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.40 น.ของวันที่ 02/03/16)
แนวโน้มวันที่ 03 มีนาคม 2559
การหุ้นพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น สร้างแรงกดดันต่อการขยับขึ้นของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนปิดตลาดพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือนในวันพุธ ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดพุ่งที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ การทะยานขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการลงในตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หนุนดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวใกล้จุดสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 98.570 นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการนำเข้าทองคำของอินเดีย เมื่อรัฐมนตรีคลังอินเดียได้ประกาศเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องประดับทองคำและเพชรในอัตรา 1% เมื่อ จนสมาคมทองคำและอัญมณีอินเดีย (IBJA) ทำการประท้วงเพื่อคัดค้านการเก็บภาษีการขายเครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำ มาตรการดังกล่าวอาจจะสกัดกั้นการนำเข้าทองคำของอินเดียและสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ยอดขายเครื่องประดับทองคำในอินเดียร่วงลงเนื่องจากราคาทองคำที่พุ่งขึ้นและผู้บริโภคได้ชะลอการซื้อโดยหวังว่าจะมีการปรับลดภาษีนำเข้า ซึ่งนั่นทำให้ผู้นำเข้าต้องลดราคาทองคำลงต่ำกว่าราคาทองคำตลาดโลกถึง 53 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อระบายสต็อก อย่างไรก็ตาม ทองคำได้รับแรงหนุนพยุงราคาไว้ เมื่อมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือ ของพันธบัตรรัฐบาลจีนลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" โดยระบุถึงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสามารถของทางการในการดำเนินมาตรการ ปฏิรูปเศรษฐกิจ, หนี้รัฐบาลที่เพิ่มขึ้น และปริมาณทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่ลดลง บ่งชี้ถึงความผันผวนผวนทางเศรษฐกิจจีนยังคงดำเนินอยู่ ยิ่งทำให้นักลงทุนจับตาทิศทางนโยบายจากการประชุมประจำปีของสภาประชาชนของจีนที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม นี้
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,248 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,220 (20,500บาท) 1,211 (20,350บาท) 1,202 (20,200บาท)
แนวต้าน 1,248 (20,980บาท) 1,260 (21,180บาท) 1,270 (21,350บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,220 (20,660บาท) 1,211 (20,510บาท) 1,202 (20,390บาท)
แนวต้าน 1,248 (21,140บาท) 1,260 (21,340บาท) 1,270 (21,510บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148