กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--Image Impact
มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด ประกาศว่า ยนตรกรรมแฟนธอมรุ่นตัวถังปัจจุบันจะถูกยกเลิกการผลิตในปีพ.ศ. 2559 นี้ การประกาศครั้งนี้ต่อเนื่องจากการที่โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้เริ่มทำการทดสอบโครงสร้างรถยนต์ที่ทำจากอลูมิเนียม ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ในอนาคตตั้งแต่ต้นปีพ.ศ. 2561 เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำการยกเลิกการผลิตโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม คูเป้ และดรอปเฮด คูเป้ในอนาคตอันใกล้ โดยยนตรกรรมแฟนธอมทั้ง 2 รุ่นนี้ จะปิดฉากลงด้วยคอลเล็กชั่นสุดพิเศษที่ชื่อว่า "แฟนธอม ซีนิธ" ซึ่งจะมีเพียง 50 คันเท่านั้น
โรลส์-รอยซ์ แฟนธอมรุ่นปัจจุบันนี้ได้ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อ 13 ปีก่อนที่กู้ดวูด และได้กลายเป็นรากฐานของรถยนต์ในตระกูลแฟนธอมยุคใหม่นับจากนั้นมา ด้วยความโอ่อ่า สง่างามและทรงพลังทำให้แฟนธอมคือสุดยอดแห่งความหรูหรา และการสร้างสรรค์แฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 นี้กำลังจะปิดฉากลงในไม่ช้า
การผลิตแฟนธอม คูเป้ และดรอปเฮด คูเป้รุ่นสุดท้ายที่กู้ดวูดจะเสร็จสิ้นลงในเดือนพฤศจิกายน 2559 และจะไม่มีการผลิตยนตรกรรมทั้ง 2 รุ่นอีกหลังจากนี้ ซึ่งนักสะสมทั่วโลกสามารถจับจองคอลเล็กชั่นพิเศษ "แฟนธอม ซีนิธ" 50 คันสุดท้ายของแฟนธอม 2 รุ่นนี้ที่จะถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นการฉลองการผลิตสุดยอดยนตรกรรมครั้งสุดท้าย อีกทั้ง บริษัทฯ จะทำการผลิตแฟนธอม ลีมูซีน เจนเนอเรชั่น 7 คันสุดท้ายในปีนี้อีกด้วย
มร. มูเลอร์-ออทเวิส กล่าวเสริมว่า "ผมรู้สึกภูมิใจและตื่นเต้นกับแฟนธอมเจนเนอเรชั่นใหม่ในอนาคต ที่จะเป็นยนตรกรรมร่วมสมัย สง่างาม เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัย โดยแฟนธอมรุ่นใหม่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์วงการยานยนต์อีกครั้ง และเราต่างทุ่มเทในการสร้างสรรค์แฟนธอม เจนเนอเรชั่น 8 ให้เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบ"
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับยนตรกรรมหรูด้วยการเปิดตัวแฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 สุดยอดรถยนต์หรูในปีพ.ศ. 2546 ตลอด 13 ปีที่ผ่านมาโรลส์-รอยซ์ได้ผลิตยนตรกรรมชั้นเยี่ยมในตระกูลแฟนธอมมากมายที่ทำให้โลกตะลึงไปกับความประณีตงดงามและการใส่ใจในทุกรายละเอียดของยนตรกรรมหรูอย่างแท้จริง
และนับจากนี้การเดินทางครั้งใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น...
แฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 ยังคงสร้างมาตรฐานใหม่ของความหรูหรา แม้ว่าจะอำลาวงการในอนาคตอันใกล้นี้
แม้ว่าจะเตรียมอำลาวงการยนตรกรรมสุดหรู แต่แฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 ก็จะยังคงสร้างมาตรฐานใหม่ของรถยนต์หรูด้วยคอลเล็กชั่นสุดพิเศษจำนวนจำกัด โดยจะรวบรวมแฟนธอมคันสุดท้ายของแต่ละรุ่นไว้ใน คอลเล็กชั่น
ทีมงานออกแบบของแผนกบริการสั่งทำพิเศษ (บีสโป๊ก) จะร่วมกันรังสรรค์ที่สุดของแฟนธอมแต่ละรุ่น ได้แก่ คูเป้ ดรอปเฮด คูเป้ และลีมูซีน เพื่อเป็นการสร้างความทรงจำครั้งสุดท้าย ในขณะเดียวกันช่างฝีมือทุกคนที่ กู้ดวูดก็พร้อมที่ร่วมมือกันสร้างสรรค์แฟนธอมครั้งนี้อย่างสุดความสามารถ
ซีนิธ – ที่สุดของยนตรกรรมชั้นยอด
คอลเล็กชั่นอำลาแฟนธอมชุดแรกมีชื่อว่า ซีนิธ ซึ่งจะเป็นการรวบรวมแฟนธอม คูเป้ และดรอปเฮด คูเป้ ทุกแบบของทั้ง 2 รุ่นนี้ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นที่บ้านของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส
"ตามชื่อของคอลเล็กชั่น ซีนิธ คือจุดสูงสุด คือสิ่งที่ดีที่สุด คือมาตรฐานที่สูงสุดเท่าที่สามารถวัดได้ ซีนิธจะรวมไว้ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดของแฟนธอม คูเป้ และแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ และคุณลักษณะเพิ่มเติมที่เหนือความคาดหมายที่จะมาสร้างสีสันให้กับรถยนต์ในคอลเล็กชั่นนี้ เราคาดว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับ ยนตรกรรม 50 คันสุดท้ายของแฟนธอม 2 รุ่นนี้ เนื่องจากจะไม่มีการผลิตขึ้นอีกแล้ว" ไจล์ส เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ กล่าว
ทั้งนี้ คุณลักษณะเพิ่มเติม ได้แก่ Tailgate Hosting Area ที่มีการสลักด้วยเลเซอร์ตรงที่พักแขนเพื่อเป็นที่ระลึกของการเผยโฉมรถยนต์ต้นแบบรุ่น 100EX ที่วิลล่า เดสเต้ และรุ่น 101EX ที่เจนีวา หน้าปัดที่ถูกออกแบบขึ้นพิเศษ และสัญลักษณ์ "สปีริต ออฟ เอ็กสตาซี" ที่ทำจากวัสดุหลากหลาย ลูกค้าแต่ละท่านจะได้รับของที่ระลึกในการสั่งซื้อรถยนต์ในคอลเล็กชั่นนี้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกสีรถได้จากสีทั้งหมดของแฟนธอมทั้ง 2 รุ่นที่เคยผลิตมา
แฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 – การกลับมาของสุดยอดยนตรกรรม
การเปิดตัวโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม เจนเนอเรชั่น 7 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2546 เป็นมากกว่าการเผยโฉมรถยนต์หรูคันใหม่ แต่กลับเป็นการส่งสัญญาณของแบรนด์ยนตรกรรมหรูแห่งศตวรรษที่ 21 ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก และเป็นการเผยโฉมครั้งแรกของผลงานชิ้นเอกที่ได้กลายเป็นยนตรกรรมชั้นยอด และครองตำแหน่งฐานะผู้นำของรถยนต์หรู
นับตั้งแต่การเปิดตัว โรลส์-รอยซ์ แฟนธอมได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นยนตรกรรมที่คู่ควรแก่สัญลักษณ์ "สปีริต ออฟ เอ็กสตาซี" การออกแบบตั้งแต่กระจังหน้าไปจนถึงส่วนท้าย สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นโรลส์-รอยซ์ ทุกมุมมองแสดงออกถึงความเด่นชัด สง่างามที่โลดแล่นไปตามท้องถนนได้อย่างไม่เป็นสองรองใคร
ปีพ.ศ. 2548 ได้มีการเพิ่มรถยนต์หลากหลายรุ่นในตระกูลแฟนธอม โดยรุ่นแรกได้แก่ แฟนธอม รุ่นขยายฐานล้อ ตามด้วยแฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ รถยนต์เปิดประทุนสุดหรูในปีพ.ศ. 2550 และแฟนธอม คูเป้ในปีพ.ศ. 2551
ทั้งนี้ ยนตรกรรมที่สง่างามและเหนือกาลเวลาในตระกูลแฟนธอม เป็นพื้นฐานของบริการบีสโป๊กที่มอบให้แก่ลูกค้าคนสำคัญที่มีความต้องการในการสร้างสรรค์รถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ปัจจุบัน แฟนธอมทุกคันที่ออกจากกู้ดวูดล้วนแล้วแต่รังสรรค์ขึ้นจากบริการบีสโป๊กไม่มากก็น้อย โดยแฟนธอมที่เป็นบีสโป๊ก คอลเล็กชั่นที่มีความโดดเด่น ได้แก่ "วอเตอร์สปีด" "เอวิเอเตอร์" "เมโทรโพลิแทน" "มหาราชา" และ "เซเรนนิตี้" เป็นต้น ล้วนถูกครอบครองโดยนักสะสมทั่วโลก และจะยังคงอยู่ต่อไปเฉกเช่นโรลส์-รอยซ์อีกหลายคันในอดีต