กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 03 มีนาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,237.80-1,244.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ16 อยู่ที่ 20,980 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,830 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.10 น.ของวันที่ 03/03/16)
แนวโน้มวันที่ 04 มีนาคม 2559
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วยหนุนตลาดหุ้นและความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐได้คลายกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ข้อมูลดังกล่าวสร้างแรงขายทำกำไรเข้ามายังตลาดทองคำเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อไปในเขตเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของสหรัฐในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่สถานการณ์ในแต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างจากกันเป็นอย่างมาก และสถานการณ์ในแต่ละภาคเศรษฐกิจก็มีความแตกต่างจากกันเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่มากนัด เพราะบรรดาเทรดเดอร์ ในสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐก็คาดว่า มีโอกาสเพียง 4% เท่านั้น ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ โดยกรอบอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.25-0.50% ในปัจจุบัน ทั้งนี้ADP Employer Services เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเกินคาด 214,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์หลังจากเพิ่มขึ้น 193,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำก่อนกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกุมภาพันธ์ในวันศุกร์นี้ โยนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม และอัตราการว่างงานอาจทรงตัวที่ 4.9% ในเดือนกุมภาพันธ์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมกราคม ขณะที่นักลงทุนกำลังรอดูทิศทางนโยบายจากการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติของจีนที่จะเริ่มขึ้นในวันเสาร์นี้ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าจะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารด้วยการลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จนสร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ซึ่งกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,227 หรือ 1,218 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแบบ Sideway Up โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,250 หรือ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,227 (20,600บาท) 1,218 (20,450บาท) 1,209 (20,300บาท)
แนวต้าน 1,250 (20,990บาท) 1,260 (21,160บาท) 1,270 (21,330บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,227 (20,720บาท) 1,218 (20,570บาท) 1,209 (20,420บาท)
แนวต้าน 1,250 (21,110บาท) 1,260 (21,280บาท) 1,270 (21,450บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148