กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) เตรียมนัดประชุมผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลประจำปี 2558 ในอัตรา 0.225บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนกว่า 6 % สูงกว่าอุตสาหกรรม ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นแตะระดับ 39.2% สูงกว่าอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน ผู้บริหาร มั่นใจปี 2559 ผลประกอบการขยายตัวได้ดีไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน ตอกย้ำแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งปีกว่า 8 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ยิ้มรับอานิสงค์มาตรการกระตุ้นภาครัฐหนุนยอดขายต้นปีเพิ่ม มูลค่ายอดขายรอรับรู้รายได้แตะ 500-600 ล้านบาท
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี" เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 ที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน แต่ในภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจของบริษัท ยังสามารถรักษาผลประกอบการที่เติบโตได้ดี โดยมียอดรับรู้รายได้ทั้งสิ้น 2,084.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 354.92 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงความสามารถในการจัดการต้นทุนได้ดี โดยมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 39.2% ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยระดับ 33% ของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังคงความสามารถในการบริหารต้นทุนในการบริหารและจัดการ โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A/Sales) อยู่ในระดับเพียง13.8% ซึ่งดีติดอันดับของอุตสาหกรรม สำหรับอัตราหนี้สินต่อทุนทั้งปี 2558 อยู่ที่ 0.71 เท่า ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่มาก แสดงถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.225 บาท โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.09 บาท และจะจ่ายเพิ่มอีก 0.135 บาทต่อหุ้น สำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลัง คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงถึง 6% เทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน โดยการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 18 มีนาคม 2559 (หรือขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 15 มีนาคม 2559) และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 13 พฤษภาคม 2559
นายชูรัชฏ์ กล่าวว่า สำหรับปี 2559 บริษัทมีความมั่นใจจะสามารถรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินได้ดีอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจจะผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้ดีกว่าปี 2558 ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 15% ด้วยบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 8 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดโครงการทั้งสิ้น 3 โครงการ ขณะที่ยอดขายของบริษัทในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 20% สูงกว่าเป้าหมาย หรือคิดเป็นยอดขายที่รอรับรู้รายได้กว่า 500-600 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2559 เป็นต้นไป เพราะได้รับอานิสงค์จากมาตรภาครัฐที่ออกมากระตุ้น ตลอดจนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดีขึ้น
"ปีนี้ เราได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในเชิงรุก 3 ส่วนหลักสำคัญ ได้แก่ คุณภาพ (Quality) ที่ยังคงมุ่งมั่นรักษาระดับมาตรฐานงานออกแบบและการก่อสร้าง เพื่อส่งมอบโครงการคุณภาพให้ถึงมือผู้บริโภค การบริการ (Service Mind) ที่สร้างความประทับใจ และการดูแลลูกค้า (CRM) ให้ความใส่ใจสร้างสังคมแห่งคุณภาพภายใต้โครงการของบริษัท เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไว้วางใจบริษัทมาเกือบสามทศวรรษ" นายชูรัชฏ์ กล่าว