กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำระดับโลก วันนี้ได้ประกาศกลยุทธ์และแผนการดำเนินธุรกิจปี 2559 มุ่งก้าวขึ้นสู่การเป็นสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน สานต่อแผนการดำเนินธุรกิจระยะกลางของธนาคารด้วย 3 กลยุทธ์หลัก โดยในปี 2559 ธนาคารจะเร่งผลักดันธุรกรรมรองรับการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ตอบรับการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "กรุงศรีมุ่งสานต่อแผนการดำเนินธุรกิจระยะกลาง (3 ปี) ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลักคือ 1) ผลักดันการเติบโตของสินทรัพย์ 2) เพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และ 3) ลดต้นทุนทางการเงิน โดยในปี 2559 มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งกรุงศรีมุ่งขยายบริการเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมทั้งในกลุ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศ CLMV พร้อมทั้งผสานความร่วมมือกับเครือข่ายของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ที่ครอบคลุม 7 ประเทศในอาเซียน"
ปัจจุบัน กรุงศรีมีเครือข่ายในกลุ่มประเทศ CLMV ประกอบด้วย สาขาธนาคารพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบบริษัทร่วมทุน "บริษัท กรุงศรีบริการเช่าสินเชื่อ จำกัด" (Krungsri Leasing Services Co., Ltd) ใน สปป.ลาว สำนักงานตัวแทนกรุงศรีในเมียนมาร์ ซึ่งทำงานควบคู่ไปกับ BTMU สาขาย่างกุ้ง และล่าสุดกรุงศรีได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการของบริษัท หัตถากสิกา (Hattha Kaksekar: HKL) สถาบันโมโครไฟแนนซ์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในกัมพูชา และในช่วงที่เหลือของปีจะพิจารณาโอกาสทางธุรกิจในเวียดนาม
"กรุงศรีมุ่งขยายบทบาทของธนาคารในการสนับสนุนลูกค้าสู่การขยายธุรกิจในต่างประเทศ รองรับกับโอกาสและการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค ในปี 2559 กรุงศรีจะเร่งผลักดันธุรกิจให้บริการธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ (Cross-border Transactions) และธุรกรรมปริวรรตเงินตรา (FX Business) โดยเฉพาะกับบรรษัทข้ามชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ และบริษัทการค้าระหว่างประเทศในประเทศไทย อันจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า การเงิน และการลงทุนของภูมิภาค ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ธุรกิจการค้าต่างประเทศ (Trade Finance) การบริหารเงินสด (Cash Management) และการชำระธุรกรรมเงินตราต่างประเทศด้วยเงินบาทและสกุลเงินตราต่างประเทศ (Local currency and cross currency settlements) การให้คำแนะนำด้านบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยระหว่างเงินสกุลต่างประเทศกับบาท (FX and Interest Rate Risk Management Advisory and Services)" นายโกโตะกล่าว
นายโกโตะกล่าวเพิ่มเติมว่า "กรุงศรีเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในปี 2559 จะปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของการลงทุนและการบริโภค โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่ 3.2% และธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานให้สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ โดยตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตที่ 5-6% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ประมาณ 3.7% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตที่ 7% และรักษาอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ไว้ที่ระดับต่ำกว่า 2.5%"