กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าโครงการ "ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ปี 2 เน้นการส่งเสริมและจัดการผลผลิตอาหารอย่างยั่งยืน อาทิ การปลูกผัก เลี้ยงปลา เพื่อส่งเสริมการบริโภคที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการอย่างต่อเนื่อง พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาต่อยอดสู่แหล่งเรียนรู้ต้นแบบในโรงเรียน
นายไพระพงศ์ เฉลียวศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า โครงการ "ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต" เป็นโครงการตามยุทธศาสตร์ความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืน ด้าน "อาหารมั่นคง" ที่ส่งเสริมการเข้าถึงอาหาร ต่อยอดความมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมสร้างโภชนาการที่ดีให้เด็กและเยาวชนรอบรั้วโรงงานหรือฟาร์มโดยในปีนี้ เข้าสู่การดำเนินโครงการเป็นปีที่ 2 บริษัทฯ ได้สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญไปถ่ายทอดความรู้ ติดตามการดำเนินงานในการส่งเสริมและจัดการผลผลิตในแต่ละโรงเรียน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผลิตอาหารมีคุณภาพ ปลอดภัย ถูกหลักโภชนาการอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจะมีการเก็บรวบรวมผลการดำเนินงานจากจำนวนผลผลิตที่ได้รับในแต่ละปีการศึกษา เพื่อรับทราบปริมาณและขีดความสามารถในการผลิตอาหารแต่ละประเภท ให้สอดคล้องกับความต้องการในการบริโภคของเด็กนักเรียนตามหลักโภชนาการ อาทิ ความสามารถในการผลิตผัก การผลิตปลา เป็นต้น พร้อมมีการติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิด จากผู้รับผิดชอบโครงการในพื้นที่ ตลอดจนจากส่วนกลางร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
"นับตั้งแต่ปี 2551 สายธุรกิจอาหารสำเร็จรูปสัตว์น้ำได้เข้าไปส่งเสริมการเข้าถึงอาหารในโรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ อ. แกลง จ. ระยอง โดยส่งเสริมการปลูกข้าวเพื่ออาหารกลางวัน จากนั้นขยายผลไปยังโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โครงการเลี้ยงปลา โครงการปลูกผักโดยเมื่อปีที่ผ่านมา ได้นำโรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์เข้าร่วมโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต เพื่อต่อยอดการร่วมสร้างโภชนาการที่ดีและส่งเสริมการเข้าถึงอาหารแก่เด็กนักเรียน" นายไพระพงศ์ กล่าว
หลังจากที่ซีพีเอฟเข้าไปส่งเสริมการเข้าถึงอาหาร ทำให้โรงเรียนสามารถพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตอาหารโดยมีปริมาณผลผลิตที่หลากหลายเพื่อร่วมเสริมสร้างโภชนาการที่ดี ได้แก่ การปลูกข้าวเพื่ออาหารกลางวัน โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โครงการเลี้ยงปลา และโครงการปลูกผัก โดยนับตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน มีผลผลิตอาหารที่ใช้ในการบริโภคภายในโรงเรียนอย่างเพียงพอ และเหลือจำหน่ายเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินโครงการรวมมูลค่ากว่า 666,000 บาท
ด้าน นายสมพร ชูก้อนทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ กล่าวว่า โรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ เป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา มีนักเรียนประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่มีฐานะไม่ค่อยดีจึงทำให้นักเรียนขาดโอกาสในการรับประทานอาหารในแต่ละวันให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งหลังจากที่ซีพีเอฟได้เข้ามาส่งเสริมการปลูกผัก การเลี้ยงปลา การเลี้ยงไก่ไข่ โดยส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแนะนำ และให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ทั้งยังส่งพนักงานมาช่วยกันปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสมกับการเป็นแหล่งผลิตอาหารในโรงเรียน รวมถึงการปรับปรุงโรงอาหารให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อให้โรงเรียนมีแหล่งผลิตอาหารกลางวันที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ทำให้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการอย่างทั่วถึง โดยล่าสุดจากการสำรวจภาวะโภชนาการในเด็กนักเรียนปีการศึกษา 2558 พบว่ามีนักเรียนประสบภาวะโภชนาการขาด(ผอมและเตี้ย) ลดลงเหลือเพียง 1 คน จากเดิมที่มีจำนวนเด็กประสบภาวะโภชนาการขาดจำนวน 13 คน ในปีการศึกษา 2557
สำหรับการดำเนินโครงการฯ โรงเรียนได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบผ่านนักเรียนในแต่ละระดับชั้น โดยมีครูคอยให้การสนับสนุน ประสานงาน และให้คำปรึกษาในการปลูกผัก เลี้ยงปลาดุก ปลูกข้าว เลี้ยงไก่ไข่ ตลอดจนการเก็บเกี่ยวผลผลิต และนำไปส่งที่โรงครัวเพื่อประกอบเป็นอาหารกลางวัน เพื่อให้เด็กนักเรียนได้บริโภคอาหารที่มีโภชนาการครบถ้วน สามารถลดปริมาณและค่าใช้จ่ายการซื้อผักจากภายนอก ทำให้ลดต้นทุนการจัดหาวัตถุดิบเพื่อประกอบเป็นอาหารกลางวันของโรงเรียน เด็กนักเรียนและครูได้รับความรู้ด้านสุขโภชนาการ นอกจากนี้โครงการฯ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนในการฝึกปฏิบัติทำการเกษตร สามารถนำทักษะไปประยุกต์ใช้ในชุมชน และขยายผลเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพในอนาคต
โรงเรียนบ้านเนินสมบูรณ์ อ. แกลง จ. ระยอง นับเป็นโรงเรียนต้นแบบที่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้บริหารของโรงเรียน ในการขับเคลื่อนโครงการให้ประสบความสำเร็จ สามารถเป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนอื่น ๆ เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสู่เครือข่ายแหล่งเรียนรู้ต้นแบบในโรงเรียนและชุมชนต่อไปในอนาคต