โบอิ้งเปิดตัวเครื่องบินตระกูลใหม่ล่าสุด 747-8

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday November 16, 2005 13:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
คาร์โกลักซ์ และนิปปอนคาร์โก้สั่งซื้อสูงสุด 34 ลำ
ใช้เทคโนโลยีรุ่น 787 เพื่อเพิ่มจำนวนที่นั่งโดยสารและปริมาณบรรทุกสินค้า
ประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น ลดเสียงดังและไอเสีย ให้ผลตอบแทนการดำเนินงานมากกว่า
วันนี้ บริษัท โบอิ้ง ได้ประกาศเปิดโครงการผลิตเครื่องบินตระกูลใหม่ 747-8 โดยมีรุ่นโดยสาร 747-8 Intercontinental และรุ่นขนส่งสินค้า 747-8 Freighter
สายการบินคาร์โก้ลักซ์ของประเทศลักเซมเบิร์ก ได้สั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 747-8 Freighter จำนวน 10 ลำ มีกำหนดรับมอบลำแรกช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2552 และจองสิทธิ์ซื้ออีก 10 ลำ โดยปัจจุบัน คาร์โก้ลักซ์มีฝูงบินโบอิ้งล้วน รุ่น 747-400 Freighter จำนวน 13 ลำ
ส่วนสายการบินนิปปอนคาร์โก้แอร์ไลน์สของญี่ปุ่น ได้สั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 747-8 Freighter จำนวน 8 ลำ มีกำหนดรับมอบลำแรกช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2552 และจองสิทธิ์ซื้ออีก 6 ลำ โดยปัจจุบัน นิปปอนคาร์โก้มีฝูงบินโบอิ้ง 747 Freighter จำนวน 13 ลำ และอยู่ระหว่างสั่งซื้อ 747-400F อีก 6 ลำ
ลูกค้าประเดิมทั้งสองรายได้สั่งซื้อรวมมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (200,000 ล้านบาท) มร.อลัน มิวลัลลี่ย์ ประธานและซีอีโอ บริษัท โบอิ้งคอมเมอร์เชียลแอร์เพลนส์ กล่าวว่า “รู้สึกตื่นเต้นที่
คาร์โก้ลักซ์และนิปปอนคาร์โก้ตัดสินใจเป็นลูกค้าประเดิมเครื่องบินแห่งอนาคตตระกูลล่าสุด 747-8 ซึ่งพัฒนาจากตระกูล 747 ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และคุณค่า จากการนำเทคโนโลยีใหม่ของรุ่น 787 ดรีมไลเนอร์มาใช้ ส่งผลให้สามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งโดยสารและปริมาณบรรทุกสินค้า ตลอดจนประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น ให้ผลตอบแทนการดำเนินงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทั้งด้านการลดเสียงดังและปริมาณไอเสีย”
747 ใหม่ทั้งสองรุ่นจะใช้เครื่องยนต์เทคโนโลยีเดียวกันกับเครื่องบิน 787 โดยเครื่องยนต์รุ่น GEnx ที่สามารถลดเสียงดังได้มาตรฐาน Stage 4 และ QC2 ลดปริมาณไอเสีย มีต้นทุนการบินต่อเที่ยวต่ำกว่า นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ห้องนักบินที่ดีขึ้น และมีปีกที่ดีกว่าเดิม
มร.ทากุโระ อุจิยามะ ประธานและซีอีโอ นิปปอนคาร์โก้แอร์ไลน์ส กล่าวว่า “747-8 Freighter จะเป็นกำลังสำคัญมากที่ทำให้เราได้เปรียบในตลาดแอร์คาร์โก้ของเอเชียที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจาก 747-8 เป็นเครื่องบินขนส่งประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในยุคน้ำมันแพงเช่นในทุกวันนี้”
มร. อูลริค โอกีแอร์มันน์ ประธานและซีอีโอ คาร์โก้ลักซ์แอร์ไลน์ส กล่าวว่า “โบอิ้ง 747-400 Freighter ถือว่าเป็นรากฐานความสำเร็จของเราตลอดมา ซึ่งผมตั้งความหวังไว้มากว่า 747-8 Freighter จะต่อยอดความสำเร็จนั้นเพื่อเพิ่มสมรรถนะของเราออกไปทั่วโลก รวมทั้งเพิ่มอัตราผลกำไรสูงสุดด้วยปริมาณบรรทุกสินค้าที่มากขึ้น พร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก และที่ถือว่าสำคัญสำหรับเราและชุมชนต่างๆ ที่เราให้บริการ ก็คือ 747-8 Freighter จะทำสถิติใหม่ในด้านการลดเสียงดังอีกด้วย”
เครื่องบินรุ่นโดยสาร 747-8 Intercontinental ซึ่งเป็นเครื่องบินเจ็ตตระกูลเดียวในประเภท 400-500 ที่นั่งมีความยาวกว่ารุ่น 747-400 อีก 3.6 เมตร (11.7 ฟุต) ทำให้รับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 34 ที่นั่งใน 3 ชั้นโดยสาร มีพิสัยการบินไกล 14,815 กิโลเมตร (8,000 ไมล์ทะเล) และตกแต่งภายในสไตล์เอกลักษณ์เฉพาะของโบอิ้ง
747-8 Intercontinental จะบินได้เงียบขึ้น ปล่อยไอเสียน้อยลง ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเครื่องบินเจ็ตคู่แข่งทุกรุ่น ส่วนห้องเก็บสินค้าใต้ท้องจะบรรทุกได้มากกว่ารุ่น 747-400 ถึง 21% มีต้นทุนการบินต่อที่นั่งต่อไมล์ต่ำกว่ารุ่น 747-400 ประมาณ 8% รวมทั้งมีต้นทุนการบินต่อเที่ยวต่ำกว่าเครื่องบิน A380 ถึง 22%
ส่วน 747-8 Freighter จะมีความยาวกว่ารุ่น 747-400 Freighter อีก 5.6 เมตร (18.3 ฟุต) ทำให้มีน้ำหนักบรรทุกรวมเครื่องบินเปล่า 140 เมตริกตัน (154 ตัน) รับปริมาณสินค้าได้มากกว่ารุ่น 747-400 อีก 16% และเนื่องจากมีลำตัวยาวขึ้นทำให้มีพื้นที่เพิ่ม 117 ลูกบาศก์เมตร (4,124 ลบ.ฟุต) สำหรับบรรทุกสินค้าในห้องหลักได้อีก 4 พอลลิต กับในห้องใต้ท้องอีก 2 พอลลิตกับอีก 2 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยลูกค้าสามารถลำเลียงสินค้าขึ้นและลงทางประตูส่วนหัวและประตูข้างของ 747-8 เพื่อความรวดเร็วและประสิทธิภาพสูงสุด
747-8 Freighter จะมีต้นทุนการบินต่อเที่ยวต่ำกว่ารุ่น A380 ถึง 20% รวมทั้งมีความคล่องตัวในการบินเช่นเดียวกับรุ่น 747-400 Freighter ในปัจจุบัน ซึ่งมีศักยภาพการทำกำไรได้ดีแม้รับสินค้าไม่เต็มลำ
747-8 Freighter จะมาเสริมฝูงบินตระกูล 747-400 Freighter ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานปัจจุบันในธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยเครื่องบิน 747-8 ทั้งสองรุ่นสามารถรับสินค้าบนพอลลิตสูงถึง 3.1 เมตร (10 ฟุต) ทำให้สายการบินมีความคล่องตัวสูงสุด
ตระกูล 747-8 ยังสามารถใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานปัจจุบันได้ดี โดยสามารถบินไปจอดที่สนามบินกว่า 210 แห่งทั่วโลก โดยสนามบินไม่ต้องลงทุนเปลี่ยนระบบโครงสร้างพื้นฐานราคาแพงแต่อย่างใด
เฉพาะ 747 Freighter มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องบินขนส่งสินค้ากว่า 50% ของโลก โดยโบอิ้งเป็นเจ้าตลาดเครื่องบินขนส่งสินค้าโลก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดทั้งสิ้นกว่า 90%
โบอิ้งคาดว่าตลาดจะมีความต้องการเครื่องบินโดยสารและขนส่งสินค้าขนาด 400 ที่นั่งขึ้นไปประมาณ 900 ลำในช่วง 20 ปีข้างหน้า และจะมีเครื่องบินขนส่งสินค้าลำตัวกว้างขนาดใหญ่ 65 ตันขึ้นไป คิดเป็น 34% ของตลาดเครื่องบินขนส่งสินค้าในปี 2567
แถลงข่าวในนาม
บริษัท โบอิ้ง คอมเมอร์เชียล แอร์เพลนส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม
จุไรกาญจน์ ตระกูลเวช (juraikarn.trakulvech@ogilvy.com)
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 02 205 6611, 02 205 6000
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ