กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเนื่องในวันสตรีสากล ที่กำลังจะมาถึงว่า วันที่ 8 มีนาคมของทุกๆ ปีได้กำหนดให้เป็น "วันสตรีสากล" ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันที่มีความหมายต่อผู้หญิงทั่วโลกเพราะผู้หญิงได้รับการส่งเสริมบทบาทในสังคมมากขึ้น จะเห็นได้ว่าในหลายประเทศให้ความสำคัญและยอมรับผู้หญิงให้ดำเนินกิจกรรมทางสังคม ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสได้แสดงความสามารถและความรับผิดชอบต่อครอบครัวและสังคมได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ได้ให้ความสำคัญกับบทบาทของสตรีให้แสดงศักยภาพในหน้าที่ต่างๆ ทางสังคม การเมืองและวัฒนธรรม โดยยอมรับความสามารถให้ได้รับสิทธิทางสังคมมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้หญิงต้องออกไปทำงานนอกบ้านและทำงานหนักขึ้นเพื่อหารายได้เสริมให้กับครอบครัว จึงอาจส่งผลให้สตรีเสี่ยงต่อการมี "ความเครียดหรือมีปัญหาสุขภาพจิต" ได้ง่าย ผู้หญิงจึงควรเตรียมพร้อมที่จะปรับตัวให้ดีขึ้น ความเครียดที่เรื้อรังย่อมไม่เป็นผลดีต่อตัวผู้หญิง ทั้งสภาพจิตใจที่กดดันและสภาพร่างกายที่เสี่ยงจะเกิดโรคตามมา ที่สำคัญความเครียดสร้างปัญหาต่อความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว กับพ่อแม่พี่น้อง กับสามี และลูก ได้เสมอ จึงควรหาวิธีผ่อนคลายที่ตนเองใช้แล้วได้ผล หยุดคิดในเรื่องที่เป็นปัญหาที่ยังหาทางออกไม่ได้สักพัก อย่าเก็บกดปัญหาไว้ตามลำพัง ปรึกษาผู้ใหญ่สามี ญาติสนิท มิตรที่ไว้ใจได้ หรือปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24ชั่วโมง หรือหากรู้สึกเหนื่อยล้าก็อาจชักชวนสมาชิกในบ้านให้ช่วยเหลือกันและกันทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ ไม่โดดเดี่ยวและเป็นการกระชับสายสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นได้ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
ด้าน แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า ผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเครียดได้ง่ายอยู่แล้ว เพราะโดยธรรมชาติผู้หญิงมีแนวโน้มคิดเล็กคิดน้อยอยู่ตลอดเวลา มีความกังวลและอารมณ์เศร้ามากกว่าผู้ชาย อีกทั้งถูกเลี้ยงดูให้ทำหน้าที่ดูแลคนรอบข้าง ทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน มักไม่ค่อยให้เวลาดูแลอารมณ์ตนเองเท่ากับเวลาที่ใช้ในการดูแลคนอื่น ตลอดจนมีช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ที่มีผลต่อภาวะอารมณ์ เช่น ในช่วงรอบเดือน หรือตั้งครรภ์หลังคลอด ไปจนถึงวัยทอง ผู้หญิงจึงควรหาวิธีการผ่อนคลายความเครียดลงบ้าง อย่าแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว ซึ่งวิธีคลายเครียดมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน เช่น ให้เวลาตนเองได้พักผ่อน ออกกำลังกาย เข้าสปา เข้าร้านเสริมสวย ทำอาหารหรือขนม ดูหนังฟังเพลง พบปะเพื่อนฝูง ฝึกสติ หรือ นั่งสมาธิบ้าง เป็นต้น เพื่อช่วยเพิ่มพลังในการดำเนินชีวิตและลดความเครียดลง
นอกจากนี้ อาจหาใครสักคนคุยด้วยที่รู้สึกว่าพร้อมจะรับฟังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายลง เช่น พูดคุยกับเพื่อน หรือสามี ซึ่งการมีบรรยากาศที่สามารถพูดคุยกันได้ในบ้านจะช่วยให้ผู้หญิงลดความเครียดลงได้มาก รวมทั้ง เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ ก็อย่าโทษตัวเอง ผู้หญิงไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ เราไม่สามารถดูแลคนอื่นได้ตลอดเวลา ต้องยอมรับและให้พื้นที่กับตัวเองและคนที่เราดูแลบ้าง อย่าคิดหรือทำแทนเขาทุกเรื่อง ที่สำคัญ ต้องฝึกเป็นนักแก้ปัญหา หัดวางแผน จัดลำดับก่อนหลัง ไม่เอาปัญหามาคิดหมกมุ่นจนหมดพลังและกำลังใจ อะไรปล่อยได้ก็ปล่อยทิ้งไปบ้าง ยืดหยุ่นให้เป็น ทั้งกับตัวเองและคนอื่น ยิ้มและหัวเราะ เปิดรับเรื่องราวดีๆ ให้เข้ามาในชีวิตบ้าง ทั้งนี้ ก็เพื่อความสุขและการมีชีวิตที่สมดุล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว