เผยผลคืบหน้าตามแผนยุทธศาสตร์การวิจับทางคลินิกพร้อมรุกอีกก้าวสู่การพัฒนายาสมุนไพร

ข่าวทั่วไป Friday August 31, 2001 12:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--อย.
เผยผลคืบหน้าการปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการวิจัยทางคลินิก ปรากฎผลเป็นที่น่าพอใจพร้อมรุกอีกก้าวทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาสมุนไพรในขั้นตอนการวิจัยทางเทคนิค เชื่อมั่นด้วยศักยภาพของประเทศไทย สามารถพัฒนายาสมุนไพรได้อย่างมีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก
ศ.สมศักดิ์ จักรไพวงศ์ รองปลัดทบวงมหาวิทยาลัย และ น.พ.วิชัย โชควิวัฒน เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับชาติ เรื่อง "ประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางความเป็นเลิศการศึกษาวิจัยทางคลินิก: การดำเนิน Excellence in Clinical Trials * The Second GCP Annual Update:Strategio Plans Implementation and Progress) ว่า ในปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขและทบวงมหาวิทยาลัยได้ลงนามร่วมกันเพื่อประกาศนโยบายแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาวิจัยทางคลินิก โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางความเป็นเลิศในการการศึกษาวิจัยทางคลินิกในระดับแนวหน้าของโลก และได้มีการประชุมระดมสมองนักวิชาการจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกลุ่มนักวิจัย คณะกรรมการพิจารณาจริยธรรม สถาบันที่ทำการศึกษาวิจัย หน่วยงานที่กำกับดูแลการศึกษาวิจัยทางคลินิก และผู้ให้ทุนวิจัย เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความเป็นเลิศของการศึกษาวิจัยทางคลินิก ดังนั้น เพื่อเป็นการติดตามผลการดำเนินงานและความคืบหน้าต่างๆ ภายหลังการนำแผนยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)จึงได้ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตเภสัชภัณฑ์จัดการประชุมในปีนี้อีกครั้ง โดยให้ทุกฝ่ายมานำเสนอผลความคืบหน้าในการปฏิบัติงาน ซึ่งผลปรากฏว่า เพียง 8 เดือนภายหลังการนำแผนยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจ ทุกกลุ่มมีการเตรียมการและดำเนินงานด้านต่างๆ อย่างได้ผล อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินงานมีปัญหาอุปสรรคบางประการเกิดขึ้น ซึ่งที่ประชุมได้ระดมความคิดเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคดังกล่าวแล้ว รวมทั้งได้เร่งปรับปรุงแผนยุทธศาตร์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้การศึกษาวิจัยทางคลินิกของประเทศไทยบรรลุเป้าหมายตามมาตรฐานสากล
อนึ่ง ในการประชุมครั้งนี้ ยังเปิดเป็นเวทีส่งเสริมการพัฒนาภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะการพัฒนายาจากสมุนไพรในขั้นตอนการศึกษาวิจัยทางคลินิก เพื่อให้การพัฒนายาจากสมุนไพรในประเทศมีความก้าวหน้าถูกต้องตามหลักวิชาการ และได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของสากล โดยที่ประชุมจะได้ร่วมกันจัดทำ "แผนยุทธศาสตร์การพัฒนศักยภาพและเสริมสร้างความเป็นเลิศของการศึกษาวิจัยทางคลินิกของยาจากสมุนไพร" ซึ่ง อย.และทบวงมหาวิทยาลัย มีความเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพความพร้อมของประเทศไทย ประกอบกับความหลากหลายของยาจากสมุนไพรในประเทศ จะช่วยให้การพัฒนายาจากสมุนไพรในขั้นตอนการศึกษาวิจัยทางคลินิกมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป
ทั้งนี้ การเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศการศึกษาวิจัยทางคลินิกในระดับแนวหน้าของโลก จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ มีการพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อทำการศึกษาวิจัยทางคลินิกในประเทศมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ เพราะการศึกษาวิจัยทางคลินิกเป็นการศึกษาที่มีการลงทุนสูง มีการถ่ายทอดวิทยาการและตามมาตรฐานสากล และไม่เป็น "หนูทดลองยา" อย่างแน่นอน--จบ--
-ตม-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ