ธนาคารกรุงเทพ ให้บริการใหม่ "บีเฟิสต์ บัตรเดบิต วีซ่า อีเลคตรอน"

ข่าวทั่วไป Tuesday April 11, 2000 09:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--ธนาคารกรุงเทพ
บัตร บีเฟิสต์ (Be 1st) หรือ บัตรเดบิต วีซ่า อีเลคตรอน ของธนาคารกรุงเทพ เป็นบัตรที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นที่สุดในบรรดาเงินพลาสติกด้วยกัน รับรองได้ว่าคุณสามารถดึงบัตรนี้ออกมาใช้ได้อย่างถูกต้องทุกครั้งแม้ว่าคุณจะมีบัตรหลายๆ ใบอยู่ในกระเป๋าสตางค์
สิ่งที่ทำให้บัตร Be 1st เด่นสะดุดตานั้นก็คือรูปลักษณ์และสีสันที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สีหลักๆ ของบัตรประกอบไปด้วยพื้นสีฟ้า ตัดด้วยสีบานเย็น และแทรกด้วยสีส้ม
บัตร Be 1st ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มีรูปลักษณ์โดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่และคนที่ใส่ใจในสไตล์ของทุกๆ สิ่งที่เขาจับต้อง คนเหล่านี้รู้จักเลือกเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดในการจับจ่ายใช้สอยแต่ละครั้ง แม้ในขณะกำลังซื้อสินค้าและบริการ
กลุ่มคนเหล่านี้ คือ คนรุ่นใหม่ที่แสวงหาโอกาสที่จะลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับชีวิต
ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่นี้สะดุดใจธนาคารกรุงเทพเป็นอย่างยิ่ง จนอดไม่ได้ที่ต้องทำการวิจัยเพื่อค้นหาว่าคนเหล่านี้มีความต้องการบริการทางธนาคารอย่างไรบ้าง จนในที่สุด ธนาคารก็พบว่า นี่คือตลาดใหม่ที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลและยังไม่มีใครสามารถครอบครองได้
ทีมวิจัยของธนาคารได้ค้นพบกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีความต้องการความแปลกใหม่ ความทันสมัย เทคโนโลยี ล่าสุด และสิ่งที่บ่งบอกบุคลิกของเขาอย่างชัดเจน
กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการความสะดวกสบายจากการใช้เงินพลาสติกในการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ยังขาดคุณสมบัติที่จะมีบัตรเครดิต
ความเข้าใจอันถ่องแท้ในความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในวัย 15 ถึง 35 ปีนี้ ทำให้ธนาคารกรุงเทพ สามารถสร้างสรรค์บัตร Be 1st ให้เหนือชั้นกว่าบัตรเดบิตอื่นๆ ที่มีอยู่ในเมืองไทยขณะนี้
นายกฤป โรจนเสถียร ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า “ลูกค้าที่ถือบัตร Be 1st คือกลุ่มลูกค้าที่มีภาพลักษณ์และบุคลิกเฉพาะของเขา และสิ่งที่ทำให้บัตรนี้มีความโดดเด่นก็คือ รูปโฉมอันพราวเสน่ห์ ที่คนรุ่นใหม่เห็นแล้วต้องบอกว่า ใช่เลย”
ผู้จัดการสายบัตรเครดิตกล่าวเพิ่มเติมว่า “ลูกค้ารุ่นใหม่เหล่านี้จะยังไม่สามารถสร้างหนี้สินจากการใช้บัตรนี้ได้เพราะจะจับจ่ายได้เท่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น"
แม้ว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่จะเป็นเป้าหมายหลักของบัตร Be 1st แต่ธนาคารกรุงเทพก็เชื่อว่าความสะดวกสบายของบริการใหม่นี้ จะทำให้ลูกค้าปัจจุบันของธนาคารเลือกใช้บัตร Be 1st ด้วย
ผู้จัดการสายบัตรเครดิตกล่าวว่า จำนวนของผู้ที่บัตรเครดิตในประเทศไทยในขณะนี้มีสัดส่วนเพียงประมาณ หนึ่งในสิบของจำนวนลูกค้าทั้งหมดของระบบธนาคารและนัยสำคัญของสถิติดังกล่าวนี้ก็คือยังมีตลาดอีกกว้างใหญ่ไพศาลสำหรับบัตรเครดิต
Be 1st คือบัตรเดบิต ที่ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้สะดวกสบายเหมือนกับบัตรเครดิต นอกจากนี้ ลูกค้ายัง รับรองความถูกต้องของการทำธุรกรรมแต่ละครั้งด้วยลายเซ็น เช่นเดียวกับบัตรเครดิตอีกด้วย
ธนาคารยังค้นพบจากการวิจัยอีกว่าลูกค้ารู้สึกมั่นใจในการใช้ลายเซ็นรับรองธุรกรรม มากกว่าการป้อนเลขรหัส นอกจากนี้ การที่ลูกค้าสามารถใช้บัตรนี้ที่ร้านค้าที่มีเครื่องรับชำระเงินอีเลคทรอนิค (Electronic Data Capture) ร่วมกับบัตรเครดิต ผลที่ตามมาก็คือ ลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายในการใช้บัตร Be 1st เท่าเทียม กับบัตรเครดิตเนื่องจากมีร้านค้าที่รับบัตรนี้อยู่ทั่วประเทศ
เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านรูปลักษณ์ของบัตร Be 1st ธนาคารกรุงเทพ ยังให้ลูกค้า สามารถเลือกที่จะมีรูปของตนอยู่บนบัตรหรือไม่ก็ได้ และถ้าหากลูกค้าเลือกที่จะมีรูป ธนาคารก็จะพิมพ์รูปนั้นลงในกรอบ วงกลมแทนที่จะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเหมือนบัตรอื่นๆ และนี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เสริมความโดดเด่นให้กับบัตร Be 1st
ด้วยนวัตกรรมล้ำหน้าทางด้านดีไซน์และความสะดวกสบายในการใช้งาน Be 1st น่าจะเป็นตัวผลักดันให้ยอดรวมของการใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าอีเลคตรอนในประเทศไทย พุ่งขึ้นไปถึงไตรมาสละ 1 พันล้านบาท นับตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปีนี้เป็นต้นไป
ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรวีซ่าอีเลคตรอนที่เพิ่มขึ้น คงเป็นข่าวที่น่ายินดีเป็นครั้งแรกสำหรับผู้ค้าปลีก นับตั้งแต่บัตรเดบิตได้เกิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2529
ผู้ค้าปลีกจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของบัตรเดบิตอย่างมหาศาล นับตั้งแต่ฐานลูกค้าที่จะขยายออกไปอย่างไม่จำกัด ไปจนถึงการลดลงของค่าใช้จ่ายในการตรวจนับและเก็บรักษาเงินสด
การที่แบงก์ใหญ่อย่างธนาคารกรุงเทพได้เข้ามารุกตลาดบัตรเดบิตอย่างจริงจังนั้น น่าจะทำให้ยอดรวมของบัตร เดบิตในตลาดขยายตัวขึ้นไปถึง 3 เท่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า
“เราได้เตรียมแผนการรณรงค์อย่างเข้มข้นไว้สำหรับช่วงสองสามเดือนข้างหน้า เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ค้าปลีกและผู้บริโภคในคุณประโยชน์ของบัตร Be 1st ” นายกฤป กล่าว
บัตร Be 1st มีเพดานการใช้จ่ายให้เลือกสูงสุดถึง 150,000 บาท ต่อวัน และผู้ถือบัตรสามารถปรับเพดานนี้ลงมาที่ 100,000 , 50,000 และ 20,000 บาท ตามความจำเป็นและความต้องการของแต่บุคคล
คุณสมบัติที่ยืดหยุ่นได้ของบัตร Be 1st แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ถือบัตรนี้มีอิสระเสรีที่จะเลือกซื้อสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและมีสไตล์ได้ทัดเทียมกับคนอื่น ๆ--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ