กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--Chomchaviwan
บริษัท พารากอน คาร์ เรนทัล จำกัด ผู้นำธุรกิจบริการรถเช่าระดับโลกภายใต้แบรนด์ "Hertz" เปิดตัวบริการรถเช่าแบรนด์ใหม่ "Thrifty" (ทริฟตี้) เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของนักเดินทาง ในคอนเซ็ปต์ Dual Brand ครั้งแรกในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดรถเช่าพร้อมเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เป็น 26 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2559 นี้
นายชาติชาย พานิชชีวะ ประธานบริหาร บริษัท พารากอน คาร์ เรนทัล จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจรถเช่าในประเทศไทยยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าตลาดสูงถึง 1,200 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละกว่า 10-15 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลมาจากปัจจัยการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางยุคใหม่ที่ชอบความเป็นอิสระ นิยมเช่ารถขับเองเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ส่งผลให้ตัวเลขธุรกิจรถเช่ามีการเติบโตสูงในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ กรุงเทพ, เชียงใหม่, ภูเก็ต และสมุย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การให้บริการผ่านแบรนด์ "Hertz" ซึ่งถือเป็นแบรนด์รถเช่าระดับพรีเมี่ยม ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บริการจะเป็นลูกค้าระดับบน โดยมีทั้งลูกค้ารายย่อยและองค์กรธุรกิจ ด้วยเหตุนึ้ จึงเป็นที่มาของการนำแบรนด์ Thrifty เข้ามาเพื่อเจาะตลาดลูกค้ารายย่อยเพื่อแข่งขันกับแบรนด์ Local โดยมีจุดเด่น คือ ราคาประหยัดกว่า แต่ได้มาตรฐานสากลระดับแบรนด์ Hertz
ทั้งนี้ รูปแบบของการเปิดให้บริการแบรนด์ Thrifty จะเปิดตัวในคอนเซ็ปต์ Dual Brand ครั้งแรกในประเทศไทย โดยจะเปิดให้บริการบนเคาน์เตอร์เดียวกันกับ Hertz โดยจะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของนักเดินทางในรูปแบบรถเช่า "ราคาประหยัด" เคียงคู่ไปกับ "การเดินทาง" โดยสามารถเช่ารถได้ง่ายๆ ด้วยราคาสบายๆ พร้อมมาตรฐานบริการระดับสากล บนเคาน์เตอร์เดียวกันกับ Hertz ด้วยสโลแกนที่ว่า Saves You Money เพื่อนที่เข้าใจนักเดินทาง
โดยในการเปิดให้บริการเฟสแรกนี้ Thrifty ได้มีรถยนต์ให้บริการรวมกว่า 200 คัน โดยมีศูนย์บริการในคอนเซ็ปต์ Dual Brand ที่เปิดให้บริการแล้ว 2 แห่ง คือ สาขาสุคนธ์ คอร์ท ถ.สาทร และสาขาพัทยา และมีเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 7 สาขา ภายในปี 2559 ได้แก่ สนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินเชียงใหม่, สนามบินเชียงราย, สนามบินขอนแก่น, สนามบินภูเก็ต และสนามบินสมุย
"สำหรับการขยายแบรนด์ Thrifty ในไทยด้วยคอนเซ็ปต์ Dual Brand ทั้งนี้เพื่อความรวดเร็ว ในการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกในการขยายแบรนด์ Thrifty อีกทั้งลูกค้าทุกคนจะมั่นใจได้ว่าจะได้รับการบริการในมาตรฐานระดับโลกเช่นเดียวกับการใช้บริการแบรนด์ Hertz ทั้งนี้ความต่างของแบรนด์ Hertz และ Thrifty มีความต่างที่ชัดเจน คือ ราคาค่าเช่ารถที่แบรนด์ Thrifty จะมีราคาถูกกว่าประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ และเงื่อนไขการเช่าที่น้อยกว่า อาทิ ค่ามัดจำรถ เป็นต้น" นายชาติชาย กล่าวเสริม
นอกจากนี้ นายชาติชาย ได้กล่าวถึงกลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจในปีนี้ว่า "สำหรับกลยุทธ์ ในการสร้างแบรนด์ Thrifty และ Hertz ในประเทศไทยนั้น เรามีแนวทางที่จะจัดกิจกรรมการสื่อสาร การตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมงบประมาณไว้กว่า 10 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการทำการตลาดผ่าน สื่อออนไลน์ซึ่งถือเป็นสื่อที่เข้าถึงนักเดินทางรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์โปรโมชั่น ที่น่าสนใจผ่านหน้าเว็ปไซด์ หรือพันธมิตรต่างๆ รวมถึงการเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อความสะดวกของลูกค้าในการเข้าถึงบริการรถเช่าที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยเชื่อมั่นว่าจากการเปิดตัว แบรนด์ Thrifty ในปีนี้ จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ โดยวางเป้าหมาย การขยายสาขาไว้ที่ 18 สาขาและเพิ่มจำนวนรถยนต์เป็น 400 คัน ในปี 2560"