กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ และแคเรียร์วีซ่า เผยผลวิจัย "ช่องว่างทักษะที่สำคัญในโลกการทำงาน" (Career Readiness-Skill Gap Research) เพื่อค้นหาคุณลักษณะที่นิสิต นักศึกษาจบใหม่ยังขาด และเป็นสิ่งที่บริษัทหรือองค์กรต่างๆ ต้องการ ได้แก่ มองทุกอย่างคือการเรียนรู้ ทำได้ทุกบทบาท คิดเองได้ทำเองเป็น แสดงออกถึงความอยากสำเร็จ ประยุกต์ได้ มืออาชีพ และสื่อสารโดนใจ นอกจากนี้ยังพบว่านิสิต นักศึกษาส่วนใหญ่กว่า 86 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่เชื่อมั่นในศักยภาพและต้องการที่จะพัฒนาตนเองเพื่อให้มีคุณสมบัติตรงตามที่องค์กรต่างๆ ต้องการ
นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) กล่าวว่า สภาวะการแข่งขันสูงของตลาดแรงงานในปัจจุบันมีอัตราผู้ว่างงานกว่า 350,000 คน (ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประจำเดือนมกราคม ปี 2559) และแต่ละปีจะมีบัณฑิตจบใหม่อีกกว่า 4 แสนคนจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทำให้บัณฑิตที่เพิ่งจบจากรั้วมหาวิทยาลัยต้องพัฒนาตัวเองให้สามารถเป็นที่ยอมรับจากบริษัทต่างๆ ทั้งนี้เพื่อค้นหาคุณลักษณะที่นิสิต นักศึกษาพึงมีให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรได้นั้น จ๊อบไทยดอทคอมจึงร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ และแคเรียร์วีซ่า ทำการศึกษาวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนิสิต นักศึกษาระดับปริญญาตรีจากทั่วประเทศ ในหัวข้อ "ช่องว่างทักษะที่สำคัญในโลกการทำงาน"(Career Readiness Skill Gap Research) เพื่อใช้เป็นแนวทางการพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ โดยผลสำรวจสามารถสรุปออกมาเป็น 7 ทักษะที่ทางภาครัฐและสถานศึกษาควรหันมาให้ความสนใจ แนะนำให้กับนิสิต นักศึกษา ดังต่อไปนี้
1. มองทุกอย่างคือการเรียนรู้ – มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ และนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในงานด้วยความทะเยอทะยานที่จะเติบโตและสร้างสรรค์ผลงาน
2. ทำได้ทุกบทบาท – สามารถเป็นได้ทั้งผู้นำ ผู้ตาม และผู้ช่วย ในทุกสถานการณ์ และสามารถเรียนรู้งานอย่างรอบด้านได้รวดเร็ว พร้อมที่จะทำงานที่ท้าทายโดยมองประโยชน์ของทีมและองค์กรมากกว่าประโยชน์ของตนเอง
3. คิดเองได้ ทำเองเป็น – ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในทักษะของพนักงาน ต้องสามารถคิดและทำได้เองโดยไม่ต้องรอคำสั่ง และเมื่อพบอุปสรรคก็ต้องสามารถเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นโดยการค้นคว้าด้วยตัวเองได้
4. แสดงออกถึงความอยากสำเร็จ – มีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานที่จะทำงานให้สำเร็จ และได้ผลลัพธ์ตามที่ตั้งไว้สามารถจูงใจตนเองเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลงานที่ดีออกมาได้ และค้นหาปัจจัยแห่งความสำเร็จผ่านการเรียนรู้จากความล้มเหลว
5. ประยุกต์ได้ – มีทักษะในการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้จากการศึกษาเข้าสู่การทำงาน เข้าใจถึงลักษณะงาน สามารถตีโจทย์ความต้องการขององค์กรได้ โดยสามารถเข้าใจได้ว่าปัจจัยหนึ่งจะส่งผลต่ออีกปัจจัยหนึ่งได้อย่างไร นำไปสู่ความสามารถในการแก้ปัญหาจากภาพรวมได้
6. มืออาชีพ – มีคุณสมบัติของการทำงานแบบมืออาชีพ คือ มีความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี มีความตรงต่อเวลา รักษามารยาทในการทำงานอยู่เสมอ และมีความอดทนอดกลั้น สามารถแยกแยะเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานออกได้ มุ่งเน้นผลลัพธ์ของการทำงาน
7. สื่อสารโดนใจ – มีความสามารถในการสื่อสารที่เป็นระบบ รู้จักการลำดับความสำคัญในการสื่อสารให้ผู้รับสารสามารถเข้าใจได้ในทันที สามารถโน้มน้าวผู้รับสารให้คล้อยตามได้ และมีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สาม
ทั้งนี้จากผลสำรวจดังกล่าวพบว่า นิสิต นักศึกษากว่า 86 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองและพร้อมที่จะพัฒนาภายใต้การชี้แนะจากผู้มีประสบการณ์ ฉะนั้นทางภาครัฐและสถานศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ควรมีนโยบายในการพัฒนา 7 ทักษะดังกล่าวให้กับนิสิต นักศึกษาโดยอาจสอดแทรกลงในบทเรียน หรือเป็นการแนะแนวนอกเวลาเรียนเพื่อให้เป็นทักษะติดตัวที่นอกเหนือจากวิชาเรียนปกติ และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาดแรงงานต่อไป นางสาวแสงเดือน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ เว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) โทรศัพท์ 02-353-6999 หรือเข้าไปที่ www.jobthai.com