กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ร่วมกับภาคีเครือข่าย และผู้แทนคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจังหวัด 76 จังหวัด เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ เน้นย้ำ ใช้งบประมาณอย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 มีมติเห็นชอบหลักการโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ อนุมัติหลักการงบประมาณในกรอบวงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ และเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงสนับสนุนเงินกองทุนให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 79,566 กองทุน วงเงินไม่เกินกองทุนละ 500,000 บาท เพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในหมู่บ้าน/ชุมชน และเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆที่หมู่บ้าน หรือชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน หรือชุมชนให้ดีขึ้น โดยโครงการที่จะจัดขึ้นนั้น ต้องยึดหลักการของประชารัฐ การมีส่วนร่วมทั้งจากภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาคราชการ ที่มุ่งเน้นการผลิต แปรรูป อย่างครบวงจร มีระบบการติดตามประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ โดยการใช้งบประมาณดังกล่าว จะนำไปเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในหมู่บ้าน/ชุมชน และเพื่อดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่หมู่บ้าน/ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชนให้ดีขึ้น เพื่อกระจายการลงทุนไปในพื้นที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด และผลักดันให้เกิดการพัฒนาในท้องถิ่นและภูมิภาคอย่างทั่วถึง
"ทั้งนี้ รัฐบาลมีความมุ่งหวังว่า ทุกภาคส่วนจะร่วมกันขับเคลื่อนงบประมาณดังกล่าว เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นรูปธรรมและ เกิดศักยภาพสูงสุด"
ด้านนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า มติคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ในคราวการประชุม เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559เห็นชอบแนวทางการดำเนินงาน และจัดตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินงานโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ (อคป.) ซึ่งมาจากผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง,ผู้ทรงคุณวุฒิในกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ผู้แทนภาคเอกชน และผู้แทนภาคประชาชน ซึ่งได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานตามโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ และได้จัดตั้งคณะทำงานดำเนินงานโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจังหวัด หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขบวนองค์กรชุมชนจังหวัด และผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ระดับจังหวัด เป็นคณะทำงาน ทำหน้าที่สนับสนุน ติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตลอดจนพิจารณาความพร้อม และให้ความเห็นโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในพื้นที่ก่อนอนุมัติจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งการสนับสนุนการจัดตั้งอาสาประชารัฐจากอาสาสมัครทั่วประเทศเพื่อทำหน้าที่ติดตามส่งเสริมการดำเนินโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันมีอาสาประชารัฐ เริ่มต้นจากทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ประมาณ 250,000 คน เป็นอาสาประชารัฐชุดแรกที่จะออกขับเคลื่อนการดำเนินงานดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงให้แนวทางในการดำเนินงานของคณะทำงานฯ แต่ละจังหวัดสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จึงได้จัดการ "ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ" เพื่อชี้แจง ขับเคลื่อนการดำเนินงาน ให้ลุล่วงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีผู้เข้าร่วม 550 คน เป็นตัวแทนจากภาคีร่วม ประกอบด้วย ประธานกรรมการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองระดับจังหวัด 76 จังหวัด ,ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ,ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ,ผู้แทนคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจังหวัด 76 จังหวัด ,ผู้แทนธนาคารออมสิน 76 จังหวัด ,ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 76 จังหวัด เป็นต้น ซึ่ง สทบ.มุ่งหวังว่า การจัดการประชุมในครั้งนี้ จะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด