กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๑๗ มี.ค. ๕๙) เวลา ๑๔.๐๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า จากกรณี สามี-ภรรยา วัย ๔๕ และ ๔๔ ปี ผู้ป่วยติดเชื้อHIV หรือโรคเอดส์ แต่ทำงานจิตอาสาช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ด้วยกันมานานกว่า ๑๐ ปี ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ทำให้ต้องต่อสู้ดิ้นรนมากว่า ๒ ปี เพื่อหาทางให้ลูกสาว วัย ๔ ขวบ ได้เข้าเรียนในโรงเรียนประจำหมู่บ้าน แต่ไม่สำเร็จ เพราะสังคมไม่ยอมรับ ทั้งที่ผลตรวจเลือดยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้ติดเชื้อ ที่จังหวัดนครพนม ซึ่งผู้เป็นแม่เผยว่าเป็นห่วงอนาคตของลูกสาวจึงอยากฝากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ให้สังคมเข้าใจและให้โอกาสผู้ป่วยเหล่านี้ ซึ่งล่าสุดข้อมูลจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต ๑ (สพป. เขต ๑ นครพนม) แจ้งว่า เพื่อให้การปฎิบัติต่อเด็กเป็นไป โดยประโยชน์สูงสุดของเด็ก เป็นธรรมและไม่เลือกปฎิบัติ สพป.เขต ๑ นครพนม ได้กำชับครูและบุคลากรในโรงเรียนทุกคน ให้ดูแลและปฎิบัติต่อเด็กนักเรียนทุกคนไม่ว่ากรณีใด ๆ โดยเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฎิบัติให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองของนักเรียนคนอื่นๆ สร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องไวรัส HIV การใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับผู้ได้รับเชื้อ พร้อมทั้งให้ดำเนินการตามนโยบายและแนวทางปฎิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนอย่างเคร่งครัด โดยรับให้เด็กก่อนประถมศึกษาอายุ ๔-๕ ปี ที่อยู่ในเขตพื้นที่ได้รับบริการของโรงเรียนต่อไป
นางสาวอนุสรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งดำเนินการช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวในด้านต่างๆ โดยหน่วยงานภาครัฐ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการเยี่ยมบ้านเพื่อให้คำแนะนำและการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะต่อไปได้เตรียมการช่วยเหลือเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดนครพนม และเตรียมมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวกรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนจัดโครงการอบรมทักษะความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ให้กับชุมชน รวมทั้งให้การดูในด้านสุขภาพ สุขอนามัย เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชนได้อย่างมีความสุขต่อไป