กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๑๔ มี.ค. ๕๙) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ ๓๕๙/๒๕๕๗-๒๕๕๙ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม
นายไมตรี กล่าวว่า จากกรณีชายชราพิการป่วยเป็นโปลิโอ แขนขาลีบ ขอทานเงินล้านที่เคยนั่งขอทานอยู่บริเวณภายในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และสามารถรวบรวมเงินถวายวัดได้ถึง ๒ ล้าน เมื่อปี ๒๕๕๖ซึ่งต่อมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๐ เม.ย. ๒๕๕๘ เห็นชอบพ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน ห้ามไม่ให้บุคคลใดทำการขอทาน ทำให้ชายชราพิการดังกล่าว เลิกเป็นขอทานและย้ายออกจากวัดไร่ขิงราชวรมหาวิหาร ล่าสุดพบว่าชายชราอยู่ห้องเช่าเพียงลำพัง และมีอาการเจ็บป่วยเนื่องอายุมากขึ้นนั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของมนุษย์จังหวัดนครปฐม(พมจ.นครปฐม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ดำเนินการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดนครปฐม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชายชราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แต่ชายชราไม่ประสงค์เข้ารับการสงเคราะห์ในสถานสงเคราะห์ เนื่องจากมีความผูกพันกับวัดไร่ขิง และประสงค์อยู่ที่วัด ซึ่งทางวัด และชาวบ้านพร้อมให้การดูแล นอกจากนี้ ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชายชราได้รับบัตรประชาชน และสามารถได้รับสิทธิสวัสดิการของรัฐ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยความพิการ เป็นต้น
นายไมตรี กล่าวต่ออีกว่า จากกรณีเด็กหญิงวัย ๑๒ ปี เป็นเด็กเรียนดี มีจิตอาสา อาศัยอยู่กับพ่อ-แม่ และน้องสาวอีก ๒ คน ครอบครัวมีฐานะยากจน พ่อและแม่มีอาชีพทำประมงและรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ทั้ง ๕ ชีวิตอาศัยในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม ไม่มีน้ำประปา ห้องน้ำ และไฟฟ้าใช้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี (พมจ.สุราษฎร์ธานี) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจของกระทรวงฯ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวดูแลเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมถูกลุขลักษณะ และดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กหญิงทั้ง ๓ คนในระยะยาวต่อไป และกรณีหญิงชราวัย ๖๖ ปี พาหลานสาววัย ๑๔ ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเราจนตั้งท้องได้ ๘ เดือน โดยเด็กหญิงยังอยู่ในอาการเสียใจ และร้องไห้ตลอดเวลา เบื้องต้นพ่อของเด็กยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป ที่จังหวัดปราจีนบุรี ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของมนุษย์จังหวัดปราจีนบุรี (พมจ.ปราจีนบุรี) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กหญิงและครอบครัว โดยด่วน
นายไมตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศไทย กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก พบว่าน้ำในแม่น้ำรวมถึงบ่อที่ขุดไว้ปริมาณน้ำลดลงและเหือดแห้ง ไม่พอต่อการใช้อุปโภคแลริโภค และทำการเกษตร ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายเน่าตายจำนวนมาก รวมถึงปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อก็ทยอยตาย ขณะนี้หลายจังหวัดเตรียมยื่นหนังสือประกาศพื้นที่พิบัติภัยแล้งเพิ่มเติม ตนมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว และได้กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามภารกิจของกระทรวงฯ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ อาทิเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม รวมทั้งสมาชิกของนิคมสร้างตนเองทั่วประเทศ เป็นต้น และให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทุกจังหวัด ลงพื้นที่สำรวจและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ หากประชาชนกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ ได้รับผลกระทบ สามารถโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง