กรุงเทพฯ--18 มี.ค.--สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
บีโอไอเผยนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ตอบรับนโยบายส่งเสริมการลงทุน ชี้คำขอ 2 เดือนแรกปี 2559 เพิ่มเกือบ 100%เทียบกับปี 2558 มั่นใจสถิติลงทุนครึ่งปีแรกแตะกว่า 200,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าจัดโรดโชว์ดึงลงทุนต่างประเทศเพิ่ม ทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอเมริกา
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าภายหลังบีโอไอได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนในกิจการเป้าหมาย และการส่งเสริมลงทุนในรูปแบบคลัสเตอร์ ประกอบกับการเดินหน้าจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนเพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการแก่นักลงทุนโดยตรงทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีนักลงทุนแสดงความสนใจยื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนภายใต้มาตรการต่างๆเพิ่มขึ้นซึ่งบีโอไอมั่นใจว่าภายในครึ่งปีแรกของปี 2559 นี้ จะมีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท โดยจำนวนนี้มั่นใจว่าจะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้มั่นใจว่าการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 450,000 ล้านบาท โดยในช่วง 2 เดือนแรก ที่ผ่านมา (มกราคม-กุมภาพันธ์ 2559) การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน มีจำนวนทั้งสิ้น 187 โครงการ เงินลงทุนรวม 32,440 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 96 จากช่วงเดียวกันปี 2558 ที่มีมูลค่าเงินลงทุน 16,500 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) จำนวน 120 โครงการ เงินลงทุน 12,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 5 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าลงทุน 1,918 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.45 เป็นกิจการใน10 อุตสาหกรรมตามเป้าหมายของรัฐบาลโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมกลุ่มดิจิทัลรองมาเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์เป็นต้น
ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปี 2559 บีโอไอ ได้เดินสายจัดกิจกรรมเพื่อชี้แจงนโนยบายต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง เช่น ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายคลัสเตอร์ อุตสาหกรรมเป้าหมายแก่นักลงทุนในภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งพบว่านักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความมั่นใจที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไป และล่าสุดภายหลังจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น 4 ราย ประกอบด้วย บริษัทโตโยต้า บริษัท อีซูซุ บริษัทนิสสัน และบริษัทฮอนด้า ได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้แจ้งยืนยันที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถรุ่นใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง รวมถึงจะมีการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย
สำหรับการจัดกิจกรรมในต่างประเทศ ที่ผ่านมาได้เดินสายจัดกิจกรรมในหลายประเทศอาทิ ญี่ปุ่น อินเดีย เยอรมนี โดยในวันที่ 24 มีนาคม นี้จะเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ พร้อมกับจัดงานสัมมนานโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ ให้นักลงทุนเกิดความชัดเจนมากขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีนักธุรกิจเกาหลีใต้ให้ความสนใจเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 500 คน โดยบีโอไอจะจัดให้มีกิจกรรมพบปะหารือรายบริษัท ในกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของเกาหลี อาทิ ดิจิทัล ไอซีที ซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมเหล็ก
"จากการจัดกิจกรรมเพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนส่วนใหญ่ตอบรับกับนโยบายต่างๆ ของไทย และมีจำนวนมากที่ยืนยันจะลงทุน หรือขยายการลงทุนในไทยต่อไป นอกจากนี้จากการที่บีโอไอได้อนุมัติการลงทุนไปแล้วในปี 2558 จำนวน 800,000 ล้านบาทนั้น ได้มีการลงทุนแล้วในปี 2558 ประมาณ 500,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2559 จะมีเม็ดเงินลงทุนจริงไม่ต่ำกว่า 600,000-700,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเร่งรัดการลงทุน" นางหิรัญญา กล่าว
นางหิรัญญา กล่าวว่า นอกจากนี้บีโอไอยังมีแผนจัดกิจกรรมต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายน จะจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุน และพบหารือรายบริษัท ที่ไต้หวัน เพื่อชักชวนกลุ่มอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยี และอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพบปะหารือรายบริษัทและชักชวนให้เข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอุปกรณ์อัตโนมัติและหุ่นยนต์ รวมถึงชี้แจงนโยบายส่งเสริมการลงทุน เพื่อดึงดูดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยาน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น