กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--กสจ.
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ (กสจ.) สร้างผลตอบแทนแก่สมาชิกในปี ๒๕๔๓ ร้อยละ ๘.๔๔ ต่อปี สูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์ ปีหน้าเชื่อว่า จะได้ผลตอบแทนลดลงบ้างโดยคาดว่า จะอยู่ในระดับร้อยละ ๕.๔-๖ ต่อปี ทั้งนี้ในปีหน้า กสจ. ตั้งเป้าเพิ่มยอดสมาชิกอีก ๓๐,๐๐๐ คนใน เชื่อมีเงินสมทบเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีนี้ที่อยู่ในระดับ ๒,๔๐๐ ล้านบาทเพิ่มเป็นกว่า ๓,๐๐๐ ล้านบาทในปีหน้า
นายยุทธดนัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้จัดการกสจ. กล่าวว่า ขณะนี้ทัศนคติและความเข้าใจของลูกจ้างประจำของส่วนราชการต่าง ๆ ที่มีต่อกสจ.มีแนวโน้มดีขึ้นกว่าเดิมมาก ดังจะเห็นได้จากยอดการสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงเดือนละประมาณ ๑,๕๐๐ ราย คิดเป็นเงินสมทบกองทุนละประมาณ ๖๐—๗๐ ล้านบาท จากที่เดิมมีการสมัครเป็นสมาชิกเดือนละประมาณ ๘๐๐ ราย คาดว่า สมาชิกกสจ. จะเพิ่มขึ้นจาก ๑๓๑,๕๐๐ ราย เป็น ๑๓๕,๐๐๐ ราย ในช่วงต้นปี ๒๕๔๔
ผู้จัดการ กสจ. กล่าวว่า เงินกองทุนกสจ. จนถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มียอดรวม ๒,๒๐๓ ล้านบาท สมาชิกได้ผลตอบแทนก่อนหักค่าจัดการร้อยละ ๘.๙ ต่อปี แต่ถ้าหักค่าตอบแทนแล้ว จะได้ผลตอบแทนร้อยละ ๘.๔๔ ต่อปี สูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์ สำหรับการเติบโตของกองทุนนั้น สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น ๒,๔๐๐ ล้านบาท และเพิ่มเป็น ๓,๐๐๐-๓,๒๐๐ ล้านบาทในปีหน้า ส่วนผลตอบแทนคาดว่า จะลดลงเหลือร้อยละ ๕.๔-๖.๐ ต่อปี เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยมีทีท่าว่าจะลดลงไปอีก
สำหรับแผนงานเพิ่มยอดสมาชิกเข้ากองทุนกสจ.นั้น ในปีหน้าคาดว่า จะสามารถดึงลูกจ้างประจำส่วนราชการที่ยังไม่เป็นสมาชิกอีก ๑๔๐,๐๐๐ คน เข้ามาเป็นสมาชิกได้อีกประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน ปัจจุบันลูกจ้างประจำส่วนราชการมีจำนวนทั้งสิ้น ๒๗๐,๐๐๐ คน เป็นสมาชิกกสจ.แล้ว ๑๓๑,๕๐๐ ราย กลยุทธในการเพิ่มยอดสมาชิกคือ จะให้ตัวแทนกสจ.ในแต่ละจังหวัดชี้แจงลูกจ้างประจำให้เห็นประโยชน์และความสำคัญที่ลูกจ้างจะได้รับในอนาคต โดยสำนักงานกสจ.จะสนับสนุนสื่อทั้งหนังสือและวิดีโอ ขณะเดียวกันก็จะให้กองการเจ้าหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการ แข่งขันกันดึงลูกจ้างประจำเข้าเป็นสมาชิก กสจ. โดยจะให้รางวัลเป็นโล่ห์ เพื่อเป็นผลงานไว้ ประกอบการพิจารณาขั้นเงินเดือนของส่วนงาน ในส่วนของการปรับปรุงระบบตรวจสอบเงินสะสมของสมาชิก จะร่วมกับธนาคารกรุงไทย ใช้ระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถตรวจสอบยอดเงินสะสมได้แบบวันต่อวันโดยจะเริ่มในเดือนมกราคมปีหน้า
กสจ.จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสวัสดิการเพิ่มเติมเมื่อออกจากราชการให้แก่ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ นอกเหนือจากเงินบำเหน็จที่จะได้รับตามปกติ เนื่องจากลูกจ้างประจำมีเงินเดือนค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ ลูกจ้างประจำของส่วนราชการที่เป็นสมาชิก จะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนร้อยละ ๓ ของเงินเดือน โดยรัฐบาลในฐานะนายจ้างส่งเงินสมทบอีกร้อยละ ๓ เช่นกัน
เงินสมทบเข้ากองทุนทั้งสองส่วนดังกล่าว ยังได้ผลตอบแทนจากการบริหารเงินของสำนักงาน กสจ.ด้วย หากลูกจ้างของรัฐมีเงินเดือนประมาณ ๕,๐๐๐ บาท และได้เงินเดือนขึ้นเพียงปีละร้อยละ ๕ เมื่อทำงานครบ ๒๕ ปี จะได้รับเงินจาก กสจ. ถึง ๖๐๔,๒๒๗ บาท ไม่นับรวมเงินบำเหน็จราชการ ถึงแม้ว่า สมาชิก จะกระทำความผิด และถูกยกเลิกเงินบำเหน็จก็ยังจะได้รับเงินกองทุน กสจ. อยู่
สำหรับการบริหารเงินกองทุนนั้น กสจ. ยึดหลักความมั่นคงเป็นหลัก เพราะลูกจ้างประจำของส่วนราชการมีเงินเดือนน้อย จึงลงทุนด้วยความระมัดระวัง โดยได้ว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม จำกัด (มหาชน) บริหารเงินของ กสจ. เน้นลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาล และพันธบัตรของรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเงินกองทุนทั้งหมด ที่เหลือเป็นการลงทุนในตราสารอื่น ๆ เช่นหุ้นกู้ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท อีสต์วอเตอร์ จำกัด หุ้นกู้ของกลุ่มบริษัทชินวัตร ซึ่งกำหนดการลงทุนในส่วนเอกชนไว้ไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของเงินทั้งหมดของกองทุน แต่คณะกรรมการกองทุนจะพิจารณาตัดสินใจลงทุน จากข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมอีกครั้ง--จบ--
-สส-