TFG พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า ปี’59 เทิร์นอะราวด์ อานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบลดลง-รายได้โตไม่ต่ำกว่า 15% เดินหน้าขยายกำลังการผลิต/บุกตลาดส่งออกญี่ปุ่น-สหภาพยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 21, 2016 08:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--IR network บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มั่นใจเกินร้อย ผลประกอบการปี'59 น่าจะพลิกเป็นบวกได้ อานิสงส์ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการผลิตลดลง ราคาไก่-สุกร น่าจะผ่านจุดต่ำสุด! พร้อมเดินหน้าลดต้นทุน ขยายกำลังการผลิต บุกตลาดส่งออกญี่ปุ่น-สหภาพยุโรป คาดรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% บอร์ดเตรียมความพร้อมเรื่องฐานทุนเพื่ออนาคตเรียบร้อย ทั้งคลอดวอร์แรนต์ให้ผู้ถือหุ้นเดิม 10:1 เตรียมออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 2 พันล้านบาท รองรับแผนขยายธุรกิจและใช้เป็นทุนหมุนเวียน "วินัย เตียวสมบูรณ์กิจ"คาดสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปีนี้ขยับเพิ่มเป็น 20% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8% นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในปี 2559 น่าจะมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวกได้ แม้ว่าในรอบปี 2558 ที่ผ่านมาจะขาดทุนก็ตาม โดยได้รับปัจจัยหนุนจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และเชื่อว่าราคาไก่และสุกร ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 15% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 17,300 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป อีกทั้งจับมือกับพันธมิตรญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออก และยังเตรียมขยายตลาดไปยังมาเลเซียเพิ่มเติมอีกด้วย โดยในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8% ของรายได้รวม "ทีมผู้บริหารของ TFG มั่นใจว่าปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานในปีนี้มาจากแผนงานลดต้นทุนที่ทำต่อเนื่องมาจากปลายปีที่แล้ว โดยมีการเพิ่มผู้บริหารที่ชำนาญการด้านนี้ ราคาไก่ที่ยังไม่สูงนัก แต่เกินจุดที่ลดต้นทุนลงมา และการขยายตัวของการผลิตสินค้าสุกร และการขยายการขายโดยร่วมมือกับพันธมิตร การเริ่มดำเนินงานของโรงงานไส้กรอกไก่ของบริษัทฯ ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 2/59 อีกทั้ง บริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเวลาทำงานของโรงชำแหละไก่ เพื่อที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นและลดต้นทุนต่อหน่วย รวมถึงบริษัทยังมีแผนการเพิ่มโปรดักท์ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทฯให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตอีกด้วย" การดำเนินการข้างต้น น่าจะเป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น สำหรับประมาณการสัดส่วนรายได้ในปีนี้ จะมาจากธุรกิจไก่ 64% ธุรกิจสุกร 28% อาหารสัตว์และอื่นๆ 8% ขณะเดียวกัน ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจสู่กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตอาหารแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยจะนำวัตถุดิบไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน (Ready to eat) ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มจากผลิตภัณฑ์ไส้กรอกไก่ภายใต้แบรนด์ "ไทยอร่อย" ในปีที่ผ่านมา และในปีนี้คงจะเพิ่มแบรนด์ เพื่อบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับแผนการทางด้านเงินทุนเอาไว้แล้วสำหรับที่จะใช้ในปัจจุบันและในอนาคตในระยะไกล โดยคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิฯ TFG-W1 เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวนไม่เกิน 510,000,000 หน่วย ในอัตราส่วนการจัดสรรที่หุ้นสามัญเดิม (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (par value) หุ้นละ 1 บาท) จำนวน 10 หุ้น ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ TFG-W1 (10:1) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มฐานทุนของบริษัทให้มีสภาพคล่องมากขึ้น รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัทเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยมีอัตราการใช้สิทธิ คือ TFG-W1 หนึ่งหน่วยต่อ 1 หุ้นสามัญ ราคาใช้สิทธิ 2.5 บาทต่อหุ้น พร้อมกันนี้ได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ ในวงเงินต้นไม่เกิน 2,000 ล้านบาท หรือในสกุลเงินอื่นในจำนวนที่เทียบเท่า เพื่อนำไปใช้ขยายธุรกิจและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท "การแจกวอร์แรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ และลงทุนกับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคตไม่ว่าจะเป็นขยายฟาร์มในธุรกิจสุกร การเข้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์ และรองรับแผนการร่วมลงทุนกับพันธมิตรต่างประเทศในอนาคต ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น" นายวินัยกล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ