กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย)
ตันเดือนตุลาคม 2004 เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์อนุกรมใหม่ที่มีชื่อว่า CLS-Class ด้วยรูปลักษณ์ของรถยนต์นั่งแบบ 4 ประตูคูเป้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการนำคุณลักษณ์และคุณสมบัติของรถยนต์ต่างแบบต่างชนิดกันมารวมไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ความงดงามที่แฝงด้วยความมีพลังอำนาจ การออกแบบแนวเส้นโค้งของตัวรถ ที่ให้ความรู้สึกและความมีบุคลิกในตัวของรถยนต์นั่งแบบคูเป้ผสมผสานกับความสะดวกสะบาย อรรถประโยชน์ ความก้วางขวาง ความสามารถในการบรรทุกสัมภาระและความเหมาะสมกับการใช้งานในทุกๆวันของรถยนต์นั่งแบบซาลูน ด้วยลักษณ์พิเศษนี้ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS-Class ใหม่เป็นแบบฉบับของรถยนต์นั่งสปอร์ตคูเป้ที่ก้าวล้ำสู่อนาคตกาลอย่างแท้จริง
CLS-Class ใหม่มีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 2 รุ่นเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V 6 200 kW/272 hp ซึ่งใช้กับ CLS รุ่น 350 และเครื่องยนต์ 8 สูบ 225 kW/306 hp ที่ใช้กับรุ่น CLS 500 อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นนี้ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ 7G-TRONIC โดยที่ CLS-500 ใช้ระบบกันสะเทือนแบบใช้อากาศ AIRMATIC DC และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบมีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ 4 จุด เป็นอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานเพื่อให้ความนุ่มนวลและความสะดวกสบายในระดับเดียวกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ S-Class
ก่อนที่จะมาเป็น CLS-Class รุ่นใหม่นี้ รถยนต์ต้นแบบได้ถูกออกแสดงเป็นครั้งแรกในงานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ปี 2003 ซึ่งมีกระแสตอบรับและได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดีจากผู้เข้าชมงาน และเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ที่ทำให้คณะผู้บริหารของเมอร์เซเดสในสตุ๊ดการ์ดตัดสินใจนำเข้าสู่สายการผลิตในที่สุดการนำคุณลักษณ์ของรถยนต์แบบคูเป้และซาลูนมาผสมผสานกันอย่างกลมกลืนส่งให้ CLS-Class ใหม่มีประโยชน์และเพิ่มคุณค่าในตัวเองได้มากกว่ารถยนต์แบบคูเป้ทั่วไป เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้รับความชื่นชมและการยอมรับในการมีบทบาทและมีความเป็นผู้นำสำหรับการเสนอแนวทางใหม่ๆให้แก่วงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริงในการออกแบบรถยนต์ในสไตล์คูเป้, ความหรูหราพิเศษของอุปกรณ์ต่างๆ และความเป็นผู้ริเริ่มในเทคโนโลยีใหม่ๆแสดงให้เห็นถึงกลุ่มเป้าหมายของ CLS-Class ใหม่ที่มีลักษณะพิเศษ คือ เป็นกลุ่มคนที่มีความลุ่มหลงในยนตรกรรมและชื่นชอบการเดินทางโดยรถยนต์อย่างชัดเจน
สะดวกสะบายและกว้างขวางเฉกเช่นรถยนต์นั่งแบบซาลูนชั้นนำ
แนวคิดในการออกแบบรถยนต์คูเป้แบบ 4 ประตูก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารตอนหลังในการเข้าหรือออกจากตัวรถซึ่งเป็นสิ่งหายากในรถยนต์คูเป้ 2 ประตูทั่วไป รวมไปถึงการให้ความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารตอนหลังด้วยเบาะนั่งหลังแบบแยกส่วน ระยะห่างระหว่างเบาะนั่งคู่หน้ากับหลัง 829 มม. ความกว้างของห้องโดยสารตอนหลังในส่วนของหัวไหล่และข้อศอก 1422 และ 1464 มม. ตามลำดับทำให้ CLS-Class มีเนื้อที่ของห้องโดยสารตอนหลังที่กว้างขวางเช่นเดียวกับรถยนต์แบบซาลูนชั้นนำทั่วไป เบาะนั่งของผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้าโดยมีเบาะนั่งแบบมีระบบระบายอากาศเป็นอุปกรณ์ติดตั้งพิเศษให้เลือกใช้ นอกจากนี้ CLS-Class ใหม่ยังมีพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระด้านท้ายถึง 475 ลิตร มากกว่ารถยนต์แบบคูเป้ทั่วไปรวมไปถึงรถยนต์แบบซาลูนอีกมากมายหลายรุ่น
ขุมกำลังเครื่องยนต์ 6 สูบและ 8 สูบให้เลือก
เครื่องยนต์ทั้งสองแบบที่ใช้กับ CLS-Class เป็นเครื่องยนต์สมรรถนะสูงโดยเฉพาะในเรื่องของแรงบิดที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวที่เยี่ยมยอด เครื่องยนต์นี้จะทำงานภายใต้สภาวะที่ดีที่สุดเพื่อให้เกิดความสนุกสนานและความเร้าใจในการขับขี่ตลอดเวลา เครื่องยนต์ V6 ที่ใช้กับ CLS 350 เป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ให้แรงม้าสูงสุด 200 kW/272 hp และให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตรที่ 2400 รอบต่อนาที ซึ่งดีที่สุดในเครื่องยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเท่ากัน
CLS 350 เครื่องยนต์ V6 มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 7.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. เครื่องยนต์นี้ทำงานร่วมกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์ออโตเมติค 7G-TRONIC ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่มีการนำระบบส่งกำลังแบบนี้มาใช้ในรถยนต์ระดับนี้ ซึ่งนอกจากจะให้ผลที่ดีเยียมในเรื่องของอัตราเร่งแล้วยังให้การประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมอีกด้วย โดย CLS 350 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 10.1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
อุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานสำหรับ CLS 350 ประกอบด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ Thermotronic, เครื่องเสียงระบบสเตอริโอ, พวงมาลัยเพาเวอร์ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถหุ้มด้วยหนัง, ล้ออัลลอย 17 นิ้วพร้อมหนังยางหน้ากว้างขนาด 245/45 R 17 เครื่องยนต์ V 8 ขนาด 5.0 ลิตรของ CLS 500 ให้สมรรถนะเช่นเดียวกับเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตพันธ์แท้ ขณะเดียวกันก็มีความนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพเหมือนกับเครื่องยนต์ 8 สูบของรถยนต์แบบซาลูนในระดับลักซัวร์รี่ เครื่องยนต์นี้ให้กำเนิดแรงม้าสูงถึง 225 kW/306 hp ให้แรงบิด 460 นิวตัน-เมตร และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เกียร์ออโตเมติค 7G-TRONIC เข้ามามีบทบาทที่สำคัญ CLS-500 ทะยานจากจุดหยุดนิ่งจนถึงความเร็ว 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.1 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 11.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
CLS 500 มีความแตกต่างในเรื่องของอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มเติมจากรุ่น CLS 350 เช่น ระบบกันสะเทือนแบบใช้อากาศ AIRMATIC DC ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยางหน้ากว้างขนาด 245/40 R 18 เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, ฝ่ายสื่อสารองค์กร,
โทรสาร 0-2676-5685
Website: media.daimlerchrysler.com
ฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ 0-2 344 61 20 0-1 836 00 14
chatvithai.tantraporn@daimlerchrysler.com
เยาวเรศ เลิศลือชาชัย 0-2 344 61 21 0-1 805 34 92
yaowaret.lertluechachai@daimlerchrysler.com
อรดา ดลกิจ 0-2 344 61 22 0-1 853 42 22
orada.dolkit@daimlerchrysler.com
หรือคุณกัลยารัตน์ แสนปัญญา (ไอน์) ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ 02-257-0300 ต่อ
340/01-622-5135
kallayaratana@golinharris.com--จบ--