กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--มรภ.สงขลา
"พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปรียบดังฝนทิพย์ชโลมใจ พระองค์คือพ่อของดิฉัน ลูกคนนี้จะเป็นข้ารองบาททุกชาติไป สิ่งใดที่ทดแทนได้จะตั้งใจและทำมันด้วยมือของตัวเอง จะตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมและนำคำสอนของพระองค์มาใช้ในการเรียนและการดำเนินชีวิตประจำวัน ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ อยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนไทยตลอดไป"
สุนทรียา ลาสสวัสดิ์ หรือ "น้องเพชร" นักศึกษาชั้นปีที่ 1 โปรแกรมวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าวถึงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
น้องเพชร ได้รับทุนพระราชทาน ซึ่งเงินทุนนี้เป็นเงินส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมาให้ผ่านทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ให้แก่โรงเรียนในเครือราชประชานุเคราะห์ และศึกษาสงเคราะห์ทั่วประเทศ เพื่อมอบให้กับนักเรียนที่มีคุณสมบัติตามที่มูลนิธิกำหนด มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี และมีฐานะยากจน ซึ่งเป็นทุนประเภทให้เปล่าต่อเนื่องจนจบปริญญาเอก แต่ต้องรักษาเกรดเฉลี่ยไม่ให้ต่ำกว่า 2.75 น้องเพชรได้รับทุนนี้เนื่องจากได้รับการพิจารณาจากโรงเรียนเก่า คือโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 38 จ.ระนอง จากผลการเรียนเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.50 มีความประพฤติดี และเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนมาโดยตลอด
ครอบครัวของน้องเพชรค่อนข้างขัดสน ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 177/11 ม.3 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เธอเป็นเพียงลูกชาวสวนจนๆ พ่อเสียชีวิตตั้งแต่ ม.3 ในตอนนั้นชีวิตมีปัญหามาก แต่ก็ไม่เคยคิดจะละทิ้งการเรียน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์เปรียบดังแสงสว่างของชีวิต ช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือผู้ให้โอกาส ให้ความหวัง และชีวิตใหม่แก่เด็กผู้ด้อยโอกาสคนนี้ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโรงเรียนของมูลนิธิ น้องเพชรได้รับการดูแลอย่างดีจนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และได้รับทุนให้ได้เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
น้องเพชร กล่าวด้วยความปลื้มปีติว่า ทุนที่ได้รับในครั้งนี้นับเป็นเกียรติแห่งวงศ์ตระกูล และเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ความพยายามและความทุ่มเทเพื่อการศึกษามาตลอดได้รับผลดีและส่งผลต่ออนาคต ทำให้เกิดกำลังใจในการใช้ชีวิต มีความคิด และระมัดระวังตัวในการวางตัวอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของคำว่านักเรียนทุนพระราชทาน
หลังจากเมฆฝนพัดผ่านไป ท้องฟ้าย่อมกลับมาสดใสอีกครั้ง เช่นเดียวกับชีวิตของน้องเพชร อนาคตอันสดใสกำลังรออยู่ข้างหน้า และผู้เป็นแม่ก็เฝ้ารอคอยที่จะร่วมชื่นชมความสำเร็จนั้น ในวันนี้เธออยากบอกกับแม่ของเธอว่า
"ที่แม่ชอบพูดว่าแม่ขอโทษที่ทำให้ลูกไม่ได้สบายเหมือนครอบครัวอื่น ไม่มีเงิน ไม่มีสมบัติ มีแต่คนดูถูกบ้านเรา มีแต่คนว่าแม่ ลูกไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ลูกคิดว่านี่คือวิชาติดตัวที่ดีที่สุด ความเข้มแข็ง เสียสละ อดทน ที่ลูกบ้านคนอื่นไม่มี"
นี่คือเรื่องราวในอีกแง่งามของชีวิตที่เกิดขึ้นกับ สุนทรียา ลาสสวัสดิ์ ที่คงทำให้ใครหลายคนที่ได้อ่านเรื่องราวของเธอ มีกำลังใจที่จะผ่านพ้นเรื่องราวเลวร้ายไปด้วยความเข้มแข็งของตัวเอง