กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--ซีพีเอฟ
ผู้บริหารเชสเตอร์ ย้ำ ร้านเชสเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศให้ความสำคัญกับการผลิตอาหารที่ปลอดภัย ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ได้มาตรฐานส่งออก ปลอดภัยจากสารตกค้างยาปฏิชีวนะ ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของอาหารทุกเมนูในร้านเชสเตอร์
นายสุวัฒน์ ทรงพัฒนะโยธิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด ดูแลธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเชสเตอร์ เปิดเผยว่า ตามที่เครือข่ายผู้บริโภคได้เรียกร้องให้ร้านฟาสต์ฟู้ดหยุดใช้เนื้อสัตว์ที่มียาปฏิชีวนะนั้น ซึ่งอาจสร้างความกังวลใจให้กับผู้บริโภค ขอยืนยันว่า เชสเตอร์ ให้ความสำคัญกับกระบวนการในการปรุงอาหารคำนึงถึงความปลอดภัย โดยพิถีพิถันทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพดี เชสเตอร์เลือกใช้เนื้อไก่ เนื้อหมู จากฟาร์มและโรงงานแปรรูปที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานส่งออก ผ่านการรับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
"เชสเตอร์ ให้ความสำคัญสูงสุดในการรักษาคุณภาพอาหารและความปลอดภัยต่อการบริโภค ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เชสเตอร์ยึดมั่นอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด บริษัทนำระบบประกันคุณภาพมาควบคุมเรื่องความสะอาด ปลอดภัย รักษาคุณภาพสูง เป็นมาตรฐานเดียวกันในการบริหารร้านเชสเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ ที่ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในรสชาติความอร่อย ความปลอดภัยและสุขอนามัยของอาหารทุกเมนูของเชสเตอร์" นายสุวัฒน์กล่าว
นายสุวัฒน์กล่าวต่อว่า ในการกระบวนการจัดหาวัตถุดิบเนื้อสัตว์ของเชสเตอร์ คำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นอันดับแรก โดยทุกสาขาของเชสเตอร์รวม 200 สาขาทั่วประเทศ มีการตรวจสอบคุณภาพของเนื้อสัตว์ทุกล็อตตามขั้นตอนที่เชสเตอร์กำหนด เพื่อรับประกันความสะอาด คุณภาพของเนื้อ อุณหภูมิในการจัดเก็บ เพื่อให้วัตถุดิบในการปรุงอาหารทุกเมนูในร้านเชสเตอร์สะอาด และปลอดภัย นอกจากนี้ ร้านเชสเตอร์ทุกสาขายังได้การรับรองตามมาตรฐาน "อาหารปลอดภัย" ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย
นอกจากนี้ ทีมรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ของเชสเตอร์ยังร่วมกับโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์อย่างใกล้ชิด ในการตรวจวิเคราะห์เนื้อสัตว์จากห้องปฏิบัติการ เพื่อให้มั่นใจว่า เนื้อไก่มีความสะอาดตามหลักสุขลักษณะ ไม่มีสารตกค้างจากยาปฏิชีวนะ และการปนเปื้อนของเชื้อโรค และเชสเตอร์จะดำเนินการทวนสอบย้อนกลับในกรณีพบปัญหาเกี่ยวกับวัตถุดิบ เพื่อแก้ไขปัญหาที่พบได้อย่างทันท่วงที