กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
(เบอร์ลิน 28 พฤศจิกายน 2543) รายงานของโครงการความร่วมมือร่วมของสหประชาชาติด้าน HIV/AIDS หรือ UNAIDS และองค์การอนามัยโลก (WHO) ภายใต้หัวข้อเรื่อง AIDS Epidemic Update: December 2000 แจ้งว่าในยุโรปตะวันออก ประชากร 7 แสนคนมีชีวิตอยู่โดยติดเชื้อ HIV ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีกลายมีปริมาณเพียง 420,000 คน นี่คือข้อมูลล่าสุดจากที่ได้นำออกเผยแพร่วันนี้
ดร. ปีเตอร์ ปิโยต ผู้อำนวยการองค์การ UNAIDS กล่าวว่า การแพร่ระบาดครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นในหมู่ผู้ใช้ยาเสพติด โดยในประเทศเหล่านี้ได้มีการต่อสู้กับโรคระบาดแม้จะมีความยุ่งเหยิงทางเศรษฐกิจและสังคม และการขาดเสถียรภาพดังกล่าวเป็นตัวโหมกระพือการใช้ยาเสพติดและการขายบริการทางเพศ ซึ่งสองสิ่งนี้เพิ่มการแพร่ระบาดของ HIV
สถานการณ์ เป็นไปอย่างรวดเร็วเกินคาดในสหพันธรัฐรัสเซียซึ่งการแพร่ระบาดในปีนี้มีสถิติสูงกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมารวมกัน เมื่อสิ้นปี 2542 มีประชากรประมาณ 130,000 คน ติดเชื้อ HIV แต่ตัวเลข ณ สิ้นปีนี้ปรากฏว่าเพิ่มขึ้นถึง 300,000 คน
การแพร่ระบาดของ HIV ในสหพันธรัฐรัสเซียในหมู่ผู้ใช้ยาเสพติดปรากฏครั้งแรกในปี 2539 ที่เมืองคาลินินกราด ในช่วงเวลาเพียง 4 ปีโรคนี้แพร่ระบาดออกไปในกว่า 30 เมืองในรัสเซีย ในปี 2542-2543 เกิดการระบาดของ HIV ขึ้นใหม่ในเมืองใหญ่ต่างๆ รวมทั้งมอสโคว์ เซนต์ปีเตอรส์เบิร์ก และเออคุตสก์ ในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดแบบฉีด ณ วันนี้มีรายงานการแพร่ระบาดของ HIV ใน 82 รัฐจากทั้งหมด 89 รัฐของสหพันธ-รัฐรัสเซีย
ดร. โกร ฮาร์เล็ม บรันท์แลนด์ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า "แม้จะมีการระบาดอย่างรวดเร็วของ HIV ในรัสเซีย แต่นับว่าการแพร่ระบาดยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น รัสเซียยังมีโอกาสที่จะลดการแพร่ระบาดได้ด้วยการเข้าแทรกแซงอย่างมีประสิทธิภาพ เท่าที่ผ่านมาการแพร่ระบาดในรัสเซียเกิดขึ้นในหมู่ผู้ใช้ยาเสพ-ติดเป็นส่วนใหญ่ แต่การแพร่ระบาดระลอกสองซึ่งเกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์กำลังวิ่งไล่ตามกลุ่มแรก และในช่วงเวลาเพียงสามหรือสี่ปีเท่านั้นก็อาจมีการแพร่ระบาดไปทั่วประเทศรัสเซีย"
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข่าวดีอยู่ในยุโรปตะวันออก ได้แก่ความพยายามเพิ่มขึ้นทั่วทั้งประเทศในการสร้างจิตสำนึกเรื่องเอดส์ ยกตัวอย่างเช่น เบลารุส เกือบทุกกระทรวงจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตอบสนองเรื่องเอดส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามในการป้องกันเอดส์ในวัยรุ่นได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี ในคาซัคสถานกฎหมายใหม่กำหนดให้มีการตรวจหาเชื้อ HIV โดยสมัครใจและให้การศึกษาเรื่องเอดส์อย่างกว้างขวางประชากรกว่า 5.3 ล้านคนทั่วโลกเพิ่งติดเชื้อ HIV ใหม่ในปี 2543 นี้ ซึ่งทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ HIV หรือเอดส์เพิ่มขึ้นถึง 36.1 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 34.3 ล้านคนในปีที่แล้ว นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้ ประชากร 21.8 ล้านคนได้เสียชีวิตไปแล้วจากโรคเอดส์
การแพร่ระบาดของโรคแตกต่างกันไปทั่วโลก ในเอเซียตะวันออกและแปซิฟิค สถิติการแพร่ระบาดยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 130,000 คนในปีนี้ และมียอดผู้ติดเชื้อ 640,000 คนหรือเพียงร้อยละ 0.07 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ
ในเอเซียใต้และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มียอดการแพร่ระบาดที่มากกว่าหรือร้อยละของผู้ติดเชื้อเท่ากับ 0.56 ซึ่งนับเป็นผู้ติดเชื้อประมาณ 700,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 450,000 คนเป็นผู้ชาย นับถึงสิ้นปีนี้ภูมิภาคนี้จะมีผู้ติดเชื้อ HIV หรือเอดส์ประมาณ 5.8 ล้านคน การแพร่ระบาดของเอดส์เกิดขึ้นในเอเซียช้ากว่าที่อื่นๆ และ ณ วันนี้มีผู้ติดเชื้อในภูมิภาคนี้มีประมาณร้อยละ 20 ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก
ในลาตินอเมริกาและแคริบเบียนมีการแพร่ระบาดอย่างซับซ้อนจากการมีเพศสัมพันธ์โดยทั่วไป และในกลุ่มของเพศที่สามรวมทั้งในผู้ฉีดยาเสพติด มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในปีนี้ 150,000 คน และประมาณ 1.4 ล้านคนติดเชื้อ HIV เอดส์เพิ่มขึ้นจาก 1.3 ล้านคนเมื่อปีก่อน ในแคริบเบียน อัตราการติดเชื้อ HIV สูงกว่าที่อื่นใดในโลกนอกจากแอฟริกา แม้ว่าการสร้างจิตสำนึกเรื่องการแพร่ระบาดกำลังเพิ่มขึ้นก็ตาม
ในประเทศต่างๆ ที่มั่งคั่ง ยังคงมีความพยายามในการป้องกันโรค เชื่อกันว่าประชากรประมาณ 30,000 คนในยุโรปตะวันตกติดเชื้อ และ 45,000 คนในอเมริกาเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการฉีดยาเสพติดนอกจากนี้ยังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยในสังคมเกย์กำลังลดลง ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อในหมู่ชายรักร่วมเพศหลังจากที่มีสถิติคงที่หรือลดลงของการแพร่ระบาดมาหลายปีแล้ว
โครงการรณรงค์ของวันรวมใจต้านภัยเอดส์ประจำปี 2543 คือ "AIDS: Men Make A Difference" (เอดส์ ลดหรือเพิ่ม เริ่มที่ผู้ชาย) โดยมุ่งเน้นให้ผู้ชายเห็นความสำคัญและเข้ามามีส่วนช่วยเหลือในการควบคุมและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเอดส์ให้มากขี้น เนื่องจากผู้หญิงไม่มีอำนาจในการที่จะกำหนดการมีสัมพันธ์ทางเพศได้มากนัก อีกทั้งโดยความเชื่อทางวัฒนธรรมและสังคมเอง แต่ในทางกลับกันยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของผู้ชายเอง จำนวนผู้ชายที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์กลับสูงกว่าผู้หญิงในทุกภูมิภาคทั่วโลก และที่น่าเป็นห่วงคือในปีนี้ผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 15-49 ปี ติดเชื้อ HIV มีจำนวนถึง 2.5 ล้านคน
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณเพ็ญศรี ทรรศนะวิเทศ
UNAIDS Media Advisor โทร 257-0300 แฟกซ์ 257-0312--จบ--
-อน-