กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
"ใครว่าทางเลือกของคนรักสุขภาพ ต้องเลือกทานแค่สลัด หรือจำพวกผักผลไม้เพียงเท่านั้น" โดยความจริงแล้ว การทานเนื้อสัตว์ถือว่ามีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย แต่มีหลายปัจจัยที่ ทำให้บุคคลแต่ละคนต้องการ "โปรตีน" จากเนื้อสัตว์ ในปริมาณที่แตกต่างกัน เคล็ดลับง่าย ๆ อย่างหนึ่งสำหรับคนรักสุขภาพและทานเนื้อสัตว์ ก็คือ ต้องทานผักครึ่งหนึ่ง เนื้อสัตว์ครึ่งหนึ่ง หรือเนื้อสัตว์ต้องมีปริมาณที่น้อยกว่าผัก ดังเช่นเมนู "มังกรคาบแก้ว"
สูตรอร่อยจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุวรรณี อาจหาญณรงค์ อาจารย์ประจำวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ส่วนผสมของเมนูมังกรคาบแก้ว หาซื้อและจัดเตรียมได้ง่ายมาก ประกอบด้วย เต้าหู้แข็ง (สีขาว) จำนวน 3แผ่น เนื้อหมูสับละเอียดประมาณ 150 - 200 กรัม รากผักชี 2 ราก กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยครึ่งช้อนชา แครอท 200 กรัม ต้นหอมและขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อน ๆ อย่างละ 50 กรัม ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา และน้ำสะอาดประมาณ 1 ลิตร
"วิธีทำเริ่มจาก โขลกพริกไทย รากผักชีและกระเทียมให้ละเอียด นำมาผสมกับหมูสับ ใส่ซีอิ๊วขาวแล้วนวดให้เข้ากัน จากนั้นหั่นเต้าหู้ออกให้เป็น 4 ชิ้น และผ่ามุมด้านในของเต้าหู้ แล้วจึงสอดไส้หมูลงไปพักไว้ในจาน ปอกเปลือกแครอทแล้วใช้มีดใบหยัก หั่นตามขวาง เตรียมน้ำใส่หม้อตั้งไฟ ใส่เกลือ ตามด้วยแครอท ต้มจนสุก นำเต้าหู้ที่สอดไส้หมูสับลงไป เมื่อเริ่มเดือดให้ใส่ผงปรุงรส ต้นหอม ขึ้นฉ่าย รอจนเดือด ชิมรสดูว่าถูกใจแล้วเป็นอันเสร็จพร้อมเสริฟ" ผศ.สุวรรณี กล่าว
เมนูนี้อุดมด้วยสารอาหารครบครัน ทั้งโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน และกรดอะมิโน รวมถึงเบต้าแคโรทีนจากแครอท ซึ่งช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และประโยชน์สำคัญจากเต้าหู้ที่หลายอาจไม่รู้ นั่นคือช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท
อีกหนึ่งข้อดีของเมนูนี้ คือ ช่วยปรับปรุงระบบย่อยอาหารของร่างกาย ซึ่งเหมาะสมสำหรับคนรักสุขภาพและอยากมีรูปร่างที่ดี เนื่องจากมีปริมาณเนื้อสัตว์ที่เหมาะสม และเหมาะกับการเป็นกับข้าวในทุกมื้อ ทั้งมื้อเช้า มื้อเที่ยงและมื้อเย็น