กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--IR network
บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) จัดหนัก!! เดินหน้าปรับกลยุทธ์ เน้นกำหนดราคาขายตรงใจลูกค้า แถมด้วยการเจาะตลาดในประเทศเพิ่ม หลังพบการฟื้นตัวและภาครัฐเดินหน้าผลักดันโครงการต่างๆ ต่อเนื่อง เพื่อสร้างจุดแข็งในการแข่งขันด้านธุรกิจ รวมถึงรักษาอัตราการทำกำไร และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น หวังรับมืออุตสาหกรรมก่อสร้างชะลอตัว "ธานินทร์ ตันประวัติ" ระบุแม้ภาคอุตสาหกรรมโดยรวมยังชะลอตัว แต่มั่นใจปีนี้ทำผลงานโตไม่ต่ำกว่า1,400 ล้านบาท เนื่องจากมีออเดอร์เข้ามาสม่ำเสมอ
นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) (ARROW) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ที่สภาวะทางเศรษฐกิจชะลอตัว และได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างโดยรวม รวมถึงธุรกิจของ ARROW อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และผลักดันให้ผลประกอบการโดยรวมในปีนี้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงหันมาเน้นเรื่องการกำหนดราคาขายเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้า อีกทั้งยังได้เจาะกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเก่า เพื่อรักษาอัตราการทำกำไร และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น
ขณะที่สถานการณ์การส่งออกในปีนี้ที่อยู่ในสภาวะชะลอตัว ทำให้คาดว่ายอดการส่งออกของบริษัทฯ จะชะลอตัวตามไปด้วยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทฯ จึงหันมาเน้นเจาะตลาดภายในประเทศมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงการฟื้นตัว รวมถึงการผลักดันโครงการต่างๆ จากภาครัฐ โดยจะส่งผลชัดเจนตั้งแต่ปลายไตรมาสที่2/2559 เป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่ายอดการส่งออกผลิตภัณฑ์กลุ่มท่อก่อสร้างปีนี้จะยังคงขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี
อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทฯ ยังคงเน้นขยายธุรกิจงานท่อร้อยสายไฟ ท่อกันน้ำ และท่อร้อยสายไฟใต้ดิน เนื่องจากยังมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องที่เพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ท่อร้อยสายไฟภายในประเทศแตะที่ระดับ 65% จากปัจจุบันอยู่ที่ 55% และยังคงเน้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นหลัก พร้อมตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
"แม้ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ยังชะลอตัว จากปัญหาภาพรวมของประเทศที่อยู่ในสภาวะตึงตัว แต่บริษัทฯ เชื่อว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส1/2559 น่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยอดขายมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการปรับแผนธุรกิจ รวมทั้งเดินหน้ารับงานใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น จากภาครัฐและเอกชน และการขยายตลาดต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ให้บริษัทมากยิ่งขึ้น "นายธานินทร์กล่าวในที่สุด