UPA ปักธงคว้า PPA โรงไฟฟ้า 200 MW ที่ทวาย จากรัฐบาลเมียนมาร์ เรียบร้อยแล้วถือเป็นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม โครงการแรกของประเทศไทยในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 29, 2016 10:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--IR networ 28 มี.ค. 2559 ณ กระทรวงพลังงานสหภาพเมียนมาร์ ได้มีพิธีลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) ขนาด200 MW ระหว่างนายอุปกิต ปาจรียางกูร กรรมการบริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA กับกระทรวงพลังงานสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยมีฯพณฯ HE U Khin Mg Soe รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานทั้ง 2 ท่านร่วมเป็นสักขีพยานคือฯพณฯ HE U Aung Than Oo และ ฯพณฯHE U Maw Tha Htwe เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ cogeneration ขนาด 200 MW ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองกันบก จังหวัดทวาย รัฐทะนินทายี โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเมียนมาร์ให้ก๊าซธรรมชาติ ที่จะนำมาผลิตไฟฟ้าทั้งหมดโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และบริษัทได้รับค่าตอบแทนจากการขายไฟฟ้าหน่วยละ 1.18 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาสูงที่สุด เท่าที่รัฐบาลเมียนมาร์เคยให้ โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี มูลค่าการลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท โดยหลังจากเซ็น PPA ในวันนี้แล้ว ทางบริษัทก็จะเดินหน้าหาแหล่งทุนสนับสนุน เพื่อจะได้ก่อสร้างและดำเนินการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ได้ภายในปี 2563ตามแผนงานต่อไป นอกจากนี้. โครงการนี้ยังเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone: DSEZ) ซึ่งทวายเป็นประตูสู่ ยุโรป ตะวันออกกลาง และอินเดียของอาเซียน เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจึงเป็นแหล่งการลงทุนใหม่ในกลุ่มอาเซียนที่มีศักยภาพสูง ทำให้ในอนาคตอันใกล้ ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้น ตามการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ทางรัฐบาลเมียนมาร์จึงได้เตรียมแผนงานเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น500MW รองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเมียนมาร์ไว้แล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น UPA ก็สนใจที่จะยื่นขอทำโครงการต่อเนื่องนี้ด้วย ดังนั้นการลงนาม PPA ในครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะส่งผลดีต่อบริษัท UPA แล้ว ยังถือเป็นความสำเร็จของประเทศไทย ที่ได้ปักธงการลงทุนในทวายได้สำเร็จเป็นชาติแรก ในขณะที่นักลงทุนจากประเทศต่างๆ ได้พยายามแข่งขันกันเข้าไปรับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมาร์ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยและประเทศไทยได้ต่อยอดธุรกิจการลงทุนในเมียนมาร์ได้เป็นอย่างดี นายอุปกิต กล่าวว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่เข้ามาลงทุนในบริษัท UPA เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ตนและทีมผู้บริหารมีความตั้งใจและทุ่มเทอย่างหนัก ที่จะมาพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัท ทำให้การดำเนินงานของบริษัท UPA มีผลประกอบการที่ดีอย่างยั่งยืน มีโครงการลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัท UPA อย่างมั่นคงในอนาคต เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น จนทำให้สามารถเซ็นสัญญา PPA สำเร็จในวันนี้ ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นที่ ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ส่วนที่เมียนมาร์บริษัทกำลังทำการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าอีกแห่งและอยู่ระหว่างการเจรจากับทางหน่วยงานของเมียนมาร์ นอกจากนี้ UPA ยังมีธุรกิจรองคือบริษัทอินฟอร์เมติก จำกัด ซึ่งทำธุรกิจสื่อสารและเทคโนโลยีโดยเป็นเจ้าของสินค้าเอง (Proprietary) ธุรกิจสื่อสารบนแพลตฟอร์มของอินเทอร์เน็ต ซึ่ง2เดือนแรกของปีนี้ได้สามารถทำรายได้แล้วกว่า60ล้านบาท. และกำลังเข้ายื่นประกวดราคากับหน่วยงานของรัฐและเอกชนอีกหลายโครงการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ