กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ขานรับสิทธิประโยชน์โครงการบ้านประชารัฐ นำโครงการคอนโดมิเนียม 1,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท เข้าร่วมโครงการ ด้านผู้บริหาร "พีระพงศ์ จรูญเอก " เชื่อมาตรการรัฐส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมอสังหาฯแข็งขันมากขึ้น และโครงการของบริษัทตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคอย่างแท้จริง มั่นใจปีนี้รายได้โตเท่าตัวแตะ 4,000 ล้านบาท ตุน Backlogในมือแล้วกว่า 6,846 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมนำโครงการที่อยู่อาศัย จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นยูนิตรวมกว่า 1,000 ยูนิต เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ เพื่อตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย แต่มีความต้องการที่อยู่อาศัยหลังแรก
ทั้งนี้โครงการคอนโดมิเนียม ของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ดังนี้ 1. โครงการคอนโดมิเนียม B Loft สุขุมวิท115 ราคา 1.39 ล้านบาท 2.โครงการคอนโดมิเนียม Tropicana BTS Erawan ราคา 1.49 ล้านบาท 3. โครงการคอนโดมิเนียม The cabana Condo ราคา 1.29 ล้านบาท 4. โครงการคอนโดมิเนียม Pause condo สุขุมวิท 115 ราคา 1.39 ล้านบาท และ 5. โครงการคอนโดมิเนียมKensington แหลงฉบัง-ศรีราชา ราคา 1.19 ล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความโดดเด่นในเรื่องของการเดินทางที่ความสะดวกสบาย เพราะเป็นโครงการที่เกาะแนวรถไฟฟ้า และใกล้แหล่งชุมชน รวมทั้งเป็นโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่มีสไตล์อย่างลงตัว ซึ่งยังไม่รวมถึง Notting Hill แพรกษา ที่ราคาขาย 1.1 – 1.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท ที่จะเปิดขายในไตรมาสสองที่จะถึงนี้
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนั้น เป็นโครงการที่ช่วยสร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ซึ่งไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมอบหมายให้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทยสนับสนุนสินเชื่อ "โครงการบ้านประชารัฐ" วงเงินรวมทั้งสิ้น 70,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาโครงการเพื่อเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) สำหรับประชาชนทั่วไปวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนที่สนใจใช้สิทธิ์โครงการบ้านประชารัฐนั้น ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน โดยมีความต้องการที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง แต่มีรายได้น้อย รัฐจึงเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้สามารถกู้เงินกับสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น ตามเงื่อนไขที่รัฐกำหนด ซึ่งสามารถติดต่อยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ภายในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่ ครม. มีมติเห็นชอบในวันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา
"เชื่อว่ามาตรการรัฐหนุนภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาฯขยายตัวมากขึ้น ยิ่งเมื่อพิจารณาจากความต้องการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของชุมชนเมืองตามแนวรถไฟฟ้า และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการแยกตัวออกมาจากครอบครัว เพื่อมาทำงาน หรือใดใดก็ตาม รวมทั้งความต้องการที่พักอาศัยเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และเมื่อพิจารณาจากค่าเช่า กับการซื้อคอนโดแล้วผ่อนชำระต่อเดือน ถือว่าไม่แตกต่างมากนัก ดังนั้นคอนโดของ "ออริจิ้น" จึงถือได้ว่าตอบโจทย์ความต้องการของบุคคลเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี" นายพีระพงศ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2559 คาดว่ามียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะช่วง 2 เดือนแรกมียอดขายแล้วกว่า 800 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการอัดแคมเปญต่างๆของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงก่อนนี้ด้วย
ดังนั้นมั่นใจว่าการเติบโตของรายได้ในปี 2559 จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือตามเป้าหมายที่ทางบริษัทได้ประกาศไว้ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากยอด Backlog ในมือ ณ สิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 6,846 ล้านบาท และโดยล่าสุดได้ฤกษ์เปิดพรีเซลโครงการ Notting Hill แหลมฉบัง-ศรีราชา โครงการหรูบนทำเลศักยภาพ ริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา ใกล้ทั้งแหล่งงาน และสถานที่สำคัญต่างๆมากมาย มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี