กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--WWF-ประเทศไทย
รายงานการจับกุมอาชญากรล่าช้างและลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายในแคเมอรูน และสาธารณรัฐคองโกเมื่อไม่นานมานี้ เพิ่มความหวังว่า รัฐบาลต่างๆ ในภูมิภาคแอฟริกากลางได้เริ่มดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมสัตว์ป่าในบริเวณลุ่มน้ำคองโกอย่างจริงจังในที่สุด
เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปฏิบัติการ ณ เมือง Djoum เจ้าหน้าที่ทางตอนใต้ของแคเมอรูน จับยึดงาช้างของกลางได้ถึง 8 กิ่ง พร้อมกับการจับกุมตัวกลุ่มผู้ลักลอบขนส่งได้อีก 3รายโดยหนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกสภา ในขณะที่ชุดปฏิบัติการร่วม บริเวณชายแดนแคเมอรูน คองโก ก็สามารถจับกุมนักล่าสัตว์ป่าได้ 1 ราย พร้อมอาวุธปืน AK47 และงาช้างในครอบครอง 6 กิ่ง ณ อุทยานแห่งชาติ Nki
นอกจากนี้เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในระหว่างการปฏิบัติการร่วมกับเครือข่าย EAGLE ซึ่งเป็นเครือข่ายองค์กรไม่แสวงผลกำไรผู้สนับสนุนกิจกรรมการบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสมในภูมิภาคแอฟริกากลาง ตะวันตก และตะวันออก เจ้าหน้าที่ตำรวจแคเมอรูนได้จับกุมผู้ลักลอบขนส่งของผิดกฎหมายพร้อมของกลางหางช้าง 3 หาง และเท้าช้างอีก 3 ข้าง
"การดำเนินการจับกุมเหล่านี้สะท้อนถึงสถานการณ์ฉุกเฉินของปัญหาการลักลอบล่าและค้างาช้างผิดกฎหมายในลุ่มน้ำคองโก ในขณะเดียวกันก็เป็นสัญญาณอันดีว่ามีการตอบโต้จากเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามอาชญากรรมสัตว์ป่านี้" นายเอเลน โอโนนิโน หัวหน้างานด้านนโยบายต่อต้านอาชญากรรมสัตว์ป่าในแอฟริกากลาง กล่าว
"กระแสต่อต้านอาชญากรรมสัตว์ป่าทั่วโลกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การกระทำที่เป็นรูปธรรมในพื้นที่แอฟริกากลาง ณ ขณะนี้ยังไม่เพียงพอ และหวังว่าปฎิบัติการจับกุมนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี"
นอกจากการบุกเข้าจับกุมอย่างจริงจังของเจ้าหน้าที่แล้ว เมื่อไม่นานนี้เจ้าหน้าที่ตุลาการในแคเมอรูนและคองโกเองได้กำหนดบทลงโทษอย่างหนักสำหรับอาชญากรสัตว์ป่า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ปล่อยให้เหล่าผู้ต้องหาสามารถลอยนวลต่ออาชญากรรมที่ตนเองก่อได้อีกต่อไป
ตัวอย่างเช่นในเดือนที่ผ่านมา อาชญากรลักลอบล่าช้างป่า 4 ราย ได้ถูกจับกุมตัวได้ในทางตอนเหนือของเมืองเซมเบ้ สาธารณรัฐคองโก เมื่อเดือนธันวาคม ถูกจำคุกและถูกปรับเป็นเงินจำนวนประมาณ 4,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับการลักลอบล่าช้างและครอบครองอาวุธยุทธภัณฑ์ผิดกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ในเดือนธันวาคม นายทะเบียนผู้ทำงานในศาลสูงเมืองโยกาโดวมาทางตะวันออกของแคเมอรูน 2 ราย ได้ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปี โทษฐานขโมยงาช้างจากที่เก็บที่ศาล ทั้งสองถูกจับได้พร้อมของกลางในเดือนตุลาคมปี 2557 ขณะกำลังขนย้ายงาช้างของกลางไปยังกรุงยาอุนเด
"แม้การริเริ่มปฏิบัติการเหล่านี้จะเป็นที่น่ายินดี แต่ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งอุตสาหกรรมการล่าช้างป่าและสัตว์ป่าอื่นๆ ในลุ่มน้ำคองโกได้ในทันที แต่มันก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามที่มากขึ้นของเจ้าหน้าที่รัฐในการยุติอาชญากรรมนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การจับกุมนักล่าสัตว์ป่าระดับล่าง แต่รวมถึงอาชญากรระดับสูงในเครือข่าย เพื่อทำให้แน่ใจได้ว่า อาชญากรเหล่านั้นจะถูกพิจารณาลงโทษโดยกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง" มาร์ค ลันกาย ผู้อำนวยการ WWF แอฟริกากลาง กล่าว
"WWF ได้มีส่วนในการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐในการต่อต้านการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายมาโดยตลอด และยังคงจะให้การสนับสนุนแก่เจ้าหน้าที่รัฐในการควบคุมการลักลอบล่าช้างต่อไป" นายลันกาย กล่าวเสริม
นอกจากนี้ การลดความเสี่ยงจากการขโมยงาช้างของกลาง เพื่อลดปริมาณงาช้างผิดกฎหมายในตลาดมืดนั้น WWF ได้ร่วมมือกับTRAFFIC เครือข่ายเฝ้าระวังการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงป่าไม้และสัตว์ป่าแห่งแคเมอรูนในการดำเนินการเรียกคืนงาช้างทั้งหมด 354 กิ่ง และผลิตภัณฑ์จากงาช้างอีก 205 ชิ้น จากทั่วประเทศ เพื่อย้ายไปเก็บรักษาในคลังนิรภัยกลางให้เสร็จสิ้นในปี 2558 โดยกระบวนการดำเนินงานทั้งหมดอยู่ภายใต้การดำเนินการของแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งชาติแคเมอรูน
ภายใต้กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าประเทศแคเมอรูนและสาธารณรัฐคองโกระบุว่า ผู้ใดก็ตามที่ถูกตรวจสอบพบว่ามีผลิตภัณฑ์จากช้างซึ่งหมายรวมถึงงาในครอบครอง ให้สัณนิษฐานว่าเป็นผู้ฆ่าช้างตัวนั้นด้วย โดยโทษสูงสุดจากการฆ่าช้างซึ่งเป็น 'สัตว์ป่าคุ้มครอง' 1 ตัว นั้นคือ จำคุก 3 ปี และ/หรือ ปรับเป็นเงินจำนวน 10 ล้านฟรังก์ (ประมาณ 20,000 เหรียญสหรัฐ) ในประเทศแคเมอรูนและจำคุก 5 ปี และ/หรือ ปรับเป็นเงินจำนวน 5 ล้านฟรังก์ (ประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐ) ในสาธารณรัฐคองโก