กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ไชน่าโมบายล์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ในด้านขนาดของเครือข่าย ฐานลูกค้าและมูลค่าทางการตลาด ประกาศลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างพันธมิตรได้แก่ บริษัท ไชน่าโมบายล์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (ซีเอ็มไอ) กับ บริษัท สตาร์ฮับ โมบายล์ (สตาร์ฮับ) และบริษัท ไชน่าโมบายล์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (ซีเอ็มไอ) กับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ณ สำนักงานใหญ่ของ ซีเอ็มไอ ที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งเดินหน้าความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ภายใต้กรอบความร่วมมือในโครงการ "แฮนด์ อิน แฮนด์" (Hand-in-Hand Program) ของ ซีเอ็มไอ (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า โครงการ ไฮ-เอช - hi-H Program)
ความร่วมมือของพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ ซีเอ็มไอจะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานหลัก โดยการสนับสนุนจากบริษัทไชน่า โมบายล์ คอมมูนิเคชันส์ คอร์ปอเรชัน (ซีเอ็มซีซี) ที่จะเป็นผู้ประสานความร่วมมือกับบริษัทสตาร์ฮับ และทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งความร่วมมือในปัจจุบันนั้น ซีเอ็มซีซี ได้อำนวยความสะดวก ครอบคลุม 5 เรื่องหลัก ซึ่งรวมถึงเรื่องการผสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดด้านดีไวซ์ ในการริเริ่มงานวิจัยด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่, เรื่องการเสริมความแข็งแกร่งให้มีศักยภาพภาพในธุรกิจบริการดาต้า, เรื่องการขยายบริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านความร่วมมือในการโรมมิ่งทั่วโลก และการแบ่งปันข้อมูล, เรื่องการยกระดับการใช้ทรัพยากรเครือข่ายเพื่อให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ, และเรื่องการร่วมกันพัฒนาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในด้านที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ หรือ Internet of Things
ซีเอ็มไอ มีเครือข่ายที่หลากหลาย ที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการเชื่อมต่อภายในประเทศและต่างประเทศ สำหรับการส่งสัญญาณ, การโรมมิ่งข้อมูล, และการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระหว่างประเทศ จากการเติบโตอย่างมากของ การโรมมิ่งเครือข่าย LTE ซีเอ็มไอ ได้พัฒนาศูนย์กลางการเชื่อมต่อ Wi-Fi ระดับโลกเพื่อแบ่งปันทรัพยากรเครือข่าย Wi-Fi เพื่อส่งมอบประสบการณ์ด้านดิจิทัลที่ดีที่สุดของโลกในยุคแห่งข้อมูลความเร็วสูง ขณะเดียวกันก็ได้มีการก่อตั้ง Global Resource Improvement Platform (GRIP) ภายใต้โครงการ ไฮ-เอช ของซีเอ็มไอ บนพื้นฐานของความร่วมมือและออกแบบมาเพื่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของระบบเครือข่าย (eco-network) ที่แข็งแกร่ง ซึ่งยั่งยืนจากการมีทรัพยากรที่ครอบคลุมทั่วถึง, การส่งมอบบริการที่รวดเร็ว, มีคุณภาพสูง, และมีต้นทุนต่ำ