กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--คอร์ แอนด์ พีค
ทีพี-ลิงค์ ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เน็ตเวิร์คระดับโลก เผยทิศทางนโยบายปี 2016 ที่จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาขยายตลาดในปีนี้ โดยมุ่งเน้นกลุ่มตลาด SOHO (Small Office & Home Office) กลุ่มตลาด SMB (Small medium Business) และตลาดโมบายตามเทรนด์การเติบโตของ 4G ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และ IoT (Internet of Thing) โดยขนทัพผลิตภัณฑ์ทั้งอุปกรณ์ Accessories รุ่นใหม่ล่าสุดหลากหลายรุ่น เข้ามาเสริมทัพอุปกรณ์เน็ตเวิร์คหลักที่วางจำหน่ายอยู่แล้ว พร้อมด้วยมือถือ 4G รุ่นใหม่ โดยทุกๆ อุปกรณ์มีความสมาร์ท เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวก ตอบสนองเทรนด์เทคโนโลยีการใช้งานลักษณะ Home Solution ชูจุดเด่นด้วยบริการหลังการขาย
นายไบรอัน ดงค์ ผู้จัดการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก, ทีพี-ลิงค์ ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายระดับโลก กล่าวว่า บริษัทให้ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีจำนวนยูสเซอร์การใช้งานมาก และเรื่องของ 4G ที่กำลังร้อนแรง รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน ที่ยังคงเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยปีละจำนวนมาก ล้วนเอื้อในการรุกขยายตลาดในประเทศไทย
โดยบริษัทได้มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ตอบโจทย์ของการทำงาน และการเชื่อมต่ออุปกรณ์เน็ตเวิร์คต่าง ๆ ให้ทำงานได้ง่าย ในเทรนด์ของ Home Solution สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เน็ตเวิร์คประเภท Accessories ที่เข้ามา ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษเรื่องขยายสัญญาณWi-Fi โดยจะทยอยนำเข้ามาเปิดตัวอีกหลายรุ่น เพื่อมาเสริมทัพอีกหนึ่งไลน์ นอกเหนือจากอุปกรณ์เน็ตเวิร์คที่วางจำหน่ายอยู่แล้ว
ด้านนายเม ซีไล กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ทิศทางนโยบายของทีพี-ลิงค์ในปี 2016 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายขยายตัวทางธุรกิจในประเทศไทย โดยจะมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 20 เปอร์เซ็นต์ จากการจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ Accessories รวมถึงสมาร์ทโฟนที่ได้เปิดให้บริการในปีนี้ ได้แก่ สมาร์ทโฟนNeffos 4G / อุปกรณ์เข้าถึงระยะไกล Wi-Fi Smart Plug / อุปกรณ์เราท์เตอร์ใหม่ Archer C5400, Archer C3150,SR20 และAD7200 และมองเรื่องการเกิดขึ้นของมือถือ 4G ซึ่งเทรนด์ของตลาดกำลังร้อนแรงและเป็นโจทย์ใหญ่ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการไอที รวมทั้งเรื่องของ IoT (Internet of Thing) ด้วย
โดยนโยบายการขยายตลาดของบริษัทจะไม่เน้นเรื่องแข่งขันด้านราคา แต่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพสินค้า และเรื่องการรับประกันสินค้าได้แก่ อุปกรณ์ประเภทไวเลสเราท์เตอร์ จะรับประกันสินค้าตลอดอายุการใช้งาน แต่มีเงื่อนไขอุปกรณ์ตัวใดที่ยกเลิกสายการผลิตจะรับประกันต่อไปอีก 3 ปี ส่วนอุปกรณ์ประเภท Accessories จะรับประกันที่ 1 ปี แต่ถ้ามีการยกเลิกการผลิตบริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า และจะขยายการประกันให้ลูกค้าต่อไปอีก 3 ปีเช่นกัน ทั้งนี้หากลูกค้ามีปัญหาสามารถโทรเข้ามาที่ Call Center ของทีพี-ลิงค์ ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้บนสติ๊กเกอร์ที่ติดไว้ที่สินค้า หรือโทร. 0-2442-0029 ได้ในวันจันทร์-เสาร์ เวลา 08.30-17.30 น.
สำหรับเทคโนโลยีที่ทีพี-ลิงค์ที่นำเข้ามาเปิดตัว และวางจำหน่ายในปัจจุบัน ได้แก่ Bluetooth Speaker รุ่น HA100อุปกรณ์ที่ช่วยเปลี่ยนลำโพงธรรมดาให้เชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธได้, พาวเวอร์แบงค์รุ่น TL-PB10400 ความจุ 10400 mAh ที่ชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี Smart charging รวมถึงอุปกรณ์เพิ่มพอร์ต USB เพื่อเพิ่มการถ่ายโอนความเร็วสูง ทั้งรุ่น UH400 อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับพอร์ต USB3.0 จำนวน 4 พอร์ต, UH700 อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับพอร์ต USB3.0 จำนวน 7 พอร์ต, UH720 อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับพอร์ต USB3.0 จำนวน 7 พอร์ต และอีก 2 พอร์ตแบบชาร์จ 5V/2.4A ที่สามารถชาร์จได้ทั้งอุปกรณ์ที่เป็น iOS และ Android, UE300 เพิ่มพอร์ตแลนด์ระดับกิกะบิตให้โน้ตบุ๊กสามารถเชื่อมต่อและใช้งานได้กับWindows ( XP / Vista / 7 / 8 / 8.1 ), Mac OS X ( 10.9 / 10.10 ), Linux OS เป็นต้น
โดยสินค้าทั้งหมดจะเจาะกลุ่มตลาด SOHO (Small Office & Home Office),กลุ่มตลาด SMB (Social Media for Business) และตลาดโมบาย โดยกลุ่มตลาดเป้าหมายเหล่านี้ มีการขยายตัวทางธุรกิจต่อเนื่องทุกปี สอดคล้องกับเทรนด์ของเทคโนโลยีที่มีการเชื่อมต่อในลักษณะ Home Solution จากนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ออกสู่ตลาด สามารถตอบสนองความไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
ทีพี-ลิงค์ เป็นบริษัทข้ามชาติสัญชาติจีน ที่มีทั้งหมด 38 สาขาทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย โดยมีพนักงานจำนวน 23,140 คน ทำงานอยู่ทั่วโลก และยังมีโรงงานผลิตอีก 2 แห่ง ที่มีกำลังการผลิต 150 ล้านยูนิต/ปี
สำหรับบริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์(ประเทศไทย) จำกัด ได้ก่อตั้งบริษัทสาขาในปี 2013 โดยในปี 2015 ที่ผ่านมามียอดขายในประเทศไทยกว่า 1 ล้านยูนิต กระจายอยู่ในตลาดทั้งพื้นที่กรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งขายผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 ราย ประกอบด้วย King I.T Network และ SYNNEX รวมทั้งยังมีช่องทางร้านค้าปลีกกระจายอยู่ประมาณ 1,000 แห่งทั่วประเทศ ทำให้ไม่ว่าจะไปที่ใด ก็สามารถหาซื้อสินค้าของทีพี-ลิงค์ได้ทุกแห่ง รวมทั้งช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่าน e – Market Place เช่นiTruemart และ shopat7 และร้านอื่นๆอีกมากมายสามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.tp-link.co.th