กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ล่าสุดจับมือสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) นำ "APCOcap" นวัตกรรมสร้างภูมิสมดุลเพิ่มคุณภาพชีวิตเพื่อผู้ติดเชื้อ HIV จากมังคุด งาดำ ฝรั่ง ถั่วเหลือง บัวบก จัดแสดงต่อสาธารณชนในงาน "CEO INNOVATION FORUM 2016 และเปิดตัวมาตรการยกเว้นภาษี 300% สำหรับการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม" ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO ผู้ดำเนินธุรกิจด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามจากสารสกัดธรรมชาติแบบครบวงจร ระบุว่า นวัตกรรม APCOcap เป็น 1 ในโครงการวิจัยคุณภาพที่สวทช. เล็งเห็นความสำคัญและให้การรับรองมอบสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี 200 – 300% สำหรับค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนารวม 12,081,499 บาท โดยทางบริษัทได้ทำวิจัยร่วมกับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จนประสบความสำเร็จในการค้นพบสูตรสารสกัดธรรมชาติปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะกลายเป็นมิติใหม่ในการดูแลสุขภาพของคนไทยได้
ทั้งนี้ "APCOcap" เป็นสูตรนวัตกรรมของคณะนักวิจัย Operation BIM ของ APCO ที่พัฒนาจากการเสริมฤทธิ์ของสารสกัด มังคุด งาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และ บัวบก ซึ่งพิสูจน์จากงานวิจัยร่วมระหว่าง APCO และศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้วว่า สามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกันในร่างกาย คือ Th17, Th1 และ Th9 (ในกลุ่มเม็ดเลือดขาว CD4) ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายเท่า แล้วยังไปเพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาว cytotoxic T-cells ให้จัดการกับเชื้อ HIV ได้อย่างปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงอีกด้วย
การทดสอบทางการแพทย์ สรุปว่า "APCOcap" สามารถเพิ่ม CD4 ได้ในเวลา 3-6 เดือน และ เพิ่มคุณภาพชีวิตในอาสาสมัครที่ใช้ยาต้านไวรัสอยู่แล้วได้ทุกราย (100%) การทดสอบในโครงการคู่ขนานของอาสาสมัครที่ใช้ยาต้านไวรัสยังพบอีกว่า นอกจากคุณภาพชีวิตของทุกคนจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้ว กลุ่มอาสาสมัครที่เป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาสยังสามารถกลับมีคุณภาพชีวิตเป็นปกติได้ ผลที่ดีที่สุดพบในผู้ติดเชื้อ TB ซึ่งอาการไม่ดีขึ้นเลยแม้จะใช้ยารักษา TB ต่อเนื่องมาแล้วหลายเดือน แต่เมื่อใช้ "APCOcap" ร่วมด้วยเพียง 2 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตเป็นปกติ จนสามารถกลับไปทำงานได้
นอกจากนี้ การใช้ "APCOcap" ของเด็กที่ติดเชื้อ HIV ในบ้านแกร์ด้า จ.ลพบุรี 70 ราย ยังพบว่า เด็กทุกคนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และในบางรายอาการติดเชื้อฉวยโอกาสยังลดลงจนมีคุณภาพชีวิตเป็น
ปกติเช่นกัน จากการตรวจเลือดเด็กในบ้านแกร์ด้า พบว่า CD4 เพิ่มขึ้น 32.45% ในเวลา 3 เดือน เพิ่มขึ้น 59.91% ในเวลา 6 เดือน และเพิ่มขึ้น 67.34% ในเวลา 12 เดือน ผลที่ดีที่สุดพบในเด็กที่ใช้ "APCOcap" ได้เพียง 1 เดือน CD4 เพิ่มขึ้นจาก 94 เป็น 364 cell/mm3, %CD4 เพิ่มขึ้นจาก 4% เป็น 17% และ จำนวนไวรัสลดลงจาก 1,090,000 เป็น 850 copies/ml.
กรณีศึกษาในผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้ใช้ยาต้าน พบว่าอาสาสมัครมีจำนวน CD4 เพิ่มขึ้นจนถึงระดับปกติและจำนวนไวรัสลดลงต่ำกว่า 40 copies/ml. หลังจากใช้ "APCOcap" ได้เพียง 12 เดือน
นอกจากนี้ ในวันที่ 4 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ยังได้ประกาศรับรองให้ "APCOcap" เป็นนวัตกรรมของชาติไทยที่สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อ HIV และในวันที่ 8 กันยายน 2558 APCO ยังได้นำผลงานวิจัย "APCOcap" ไปนำเสนอต่อที่ประชุมวิทยาศาสตร์นานาชาติ HIMSS AsiaPac15 ที่ประเทศสิงค์โปร์ เป็นการแสดงศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลกอีกด้วย
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ติดเชื้อ HIV ทั้งในและต่างประเทศ โดยสามารถที่จะเพิ่ม CD4 ในเวลาสั้น ลดเชื้อ HIV ได้รวดเร็ว ลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสได้ดีมาก คุณภาพชีวิตของผู้บริโภคทุกรายมีสภาพปกติเหมือนผู้ไม่ติดเชื้อทั่วไป
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.livcapsule.com