กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--ททท.
ปิดฉากบางกอกฟิล์ม พร้อมเปิดตลาดหนังไทยสู่นานาชาติ งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2548 ( 2005 Bangkok International Film Festival ) ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและภาคเอกชน ซึ่งงานเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา และสิ้นสุดลงแล้วในวันที่ 24 มกราคม 2548 โดยพิธีปิดงานฉายภาพยนตร์เรื่อง "ซุ้มมือปืน" ณ โรงภาพยนตร์สกาล่า พร้อมความสำเร็จในการขยายตลาดอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยสู่นานาชาติ การจัดงานในปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 46,000 คน ประมาณการรายได้หมุนเวียนช่วงระหว่างการจัดงาน 12 วัน สูงถึง 2,500 ล้านบาท ทั้งมีกระแสว่าจากการจัดงานครั้งนี้ จะมีภาพยนตร์จากต่างประเทศมาถ่ายทำในประเทศไทยปีนี้ถึง 3 เรื่อง กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในงาน ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายจากกว่า 30 ประเทศ จำนวน 204 เรื่อง โดยมีผู้ให้ความสนใจเข้าชมภาพยนตร์ถึง 36,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 7.23 % โดยเฉพาะผู้เข้าชมที่เป็นชาวต่างชาติปีนี้มีจำนวนสูงถึง 47 % ของผู้เข้าชมทั้งหมด กิจกรรมการตลาดการซื้อขายภาพยนตร์ หรือ Bangkok Film Mart ในปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา มีภาคธุรกิจเอกชนในวงการภาพยนตร์เข้าร่วมเป็นจำนวนกว่า 300 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า โดยมีตัวแทนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการภาพยนตร์ อาทิ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมงาน คาดว่ามีการทำข้อตกลงและเซ็นสัญญาภายในงานกว่า 500 คน คิดเป็นเงินประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท จากการสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมงาน Bangkok Film Mart และผู้อยู่ในวงการภาพยนตร์ไทยส่วนใหญ่เห็นว่า งาน Bangkok Film Mart ในปีนี้ประสบความสำเร็จสูงกว่าปีที่ผ่านมา และยังชี้ให้เห็นว่าวงการภาพยนตร์ไทยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรเน้นการนำเสนอประเทศไทยในฐานะเป็น Film Location ให้มากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบ เพราะมีความพร้อมสูงในด้านสถานที่ถ่ายทำ (Location) มีบุ คลากรที่มีความรู้ความสามารถ และมีความคิดสร้างสรรค์ค่อนข้างสูง มีอุปกรณ์เครื่องมือการถ่ายทำ ตลอดจนการทำ Pre-Post Production ที่ได้มาตรฐานระดับโลก ด้านการจัด Workshop พบว่าประสบความสำเร็จในระดับค่อนข้างดี มีการนำเสนอความรู้จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ในวงการภาพยนตร์ ซึ่งประสบความสำเร็จ มีผลงานได้รับรางวัลระดับโลก อาทิ รางวัล Oscar ในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านมุมมองของการเป็น Film Location ของประเทศไทย จากผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง Bennett Walsh ที่มาถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง Stealth ในประเทศไทย ด้านเทคนิคในการพัฒนาธุรกิจภาพยนตร์ ด้านเทคนิคการถ่ายทำภาพยนตร์ Animation จาก Gabor Csupo รวมไปถึงด้านเทคนิคการกำกับภาพยนตร์ระดับโลก จากผู้กำกับภาพ Rodrigo Prieto โดยมีผู้เข้าร่วมการสัมมนา ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในวงการภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ อาทิ กลุ่ม Producer รวมทั้งสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆ ประมาณ 884 คน เป็นต้น นับว่าการสัมมนาดังกล่าวได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับคนในวงการภาพยนตร์ในประเทศไทยและเอเชีย ให้พัฒนางานในสาขาที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น การจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ฯ ในปีนี้ ซึ่งเพิ่งผ่านเหตุการณ์ธรณีพิบัติ 6 จังหวัดชายทะเลฝั่งอันดามัน รูปแบบการจัดงานเน้นความเรียบง่าย และในวันพิธีเปิดงานได้ จัดฉายภาพยนตร์รอบการกุศลระดมรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติคลื่นยักษ์ใน 6 จังหวัดภาคใต้ จากผู้อยู่ในวงการภาพยนตร์ ผู้สร้าง ผู้กำกับ นักแสดง และสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศที่มาร่วมงาน รวมถึงนำรายได้จากการขายบัตรเข้าชมภาพยนตร์ส่วนหนึ่ง ตลอดการจัดงาน 12 วัน สมทบช่วยเหลือผู้ประสบภัย การจัดงานนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้มีแนวโน้มเติบโตอย่างสดใส ทั้งยังปูทางให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการติดต่อซื้อขายธุรกิจทางด้านบันเทิงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางเมืองภาพยนตร์ที่สามารถรวบรวมผู้มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์ระดับโลก รวมถึงศักยภาพความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยในการเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ งานนี้จึงเป็นอีกมิติหนึ่งที่สร้างภาพลักษณ์ให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และภาพลักษณ์ที่ดี ต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย
แหล่งข่าว กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท.
โทร.0-2250-5500 ต่อ 1555 - 1563
โทรสาร 0 2250 5681
Web Site : ข่าวประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
http://www.tat.or.th/pr--จบ--