กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
24 มีนาคม 2559 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา หนึ่งในคณะกรรมการพิธีปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 27 ได้จัดกิจกรรมพิธีปิดโครงการ โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ เป็นประธานในพิธีปิด พร้อมมอบโล่แก่ผู้สนับสนุนโครงการและมอบประกาศนียบัตรให้แก่เยาวชนทั้ง 240 คน
ภายใต้โครงการมีกิจกรรมจัดเสวนาในหัวข้อเรื่อง "การพัฒนาสัวคมในมิติสังคมพหุวัฒนธรรม" ขึ้นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา โดยนายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระพิพัฒนศาสนากิจวิธาน เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง อาจารย์ ดร.เกษม บำรุงเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา บาทหลวงวิชชุกรณ์ เกตุภาพ หัวหน้าเขตการปกครอง เขต 6 และนายประดิษฐ์ รัตนโกมล ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ และเข้าใจบริบทการอยู่ร่วมกันของพี่น้องภาคใต้เป็นอย่างดีมาร่วมในการเสวนา วันนี้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเยาวชนเข้าร่วมกว่า 300 คน
อาจารย์ ดร.เกษม บำรุงเวช อธิการบดีกล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่ทางมหาวิทยาลัยได้จัดพิธีปิดโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 27 ได้มีโอกาสต้อนรับเยาวชนและครูพี่เลี้ยงจากดินแดนภาคใต้ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยาเป็นมหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษาทั้งชาวพุทธและมุสลิม มีแหล่งเรียนรู้และมีบุคลากรที่จะให้ความรู้แก่เยาวชนที่ต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม มุ่งหวังเพื่อเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาสังคมจนนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 27 ได้กล่าวว่า โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อให้เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามกับเยาวชนที่นับถือ ศาสนาพุทธ จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเข้าค่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม สำหรับรุ่นที่ 27 นี้ มีเยาวชนที่มาร่วมโครงการทั้งสิ้น 240 คน จากจังหวัดชายแดนใต้ ในครั้งนี้ว่า ในส่วนของโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ได้รับความร่วมมือจากครอบครัวอุปถัมภ์เป็นอย่างมาก ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มาร่วมในครอบครัวได้มีโอกาสศึกษาวิถีชีวิตเกี่ยว กับธรรมเนียมประเพณี สิ่งที่เยาวชนได้ไปก็ถือรับถือว่าเป็นส่วนที่ครอบครัวอุปถัมภ์ได้ทำประโยชน์ ให้เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดและก็การถ่ายทอดนั้นถือว่าเป็นเรื่องของใจสู่ใจ ไม่ใช่เป็นเรื่องของวิธีการ ซึ่งครอบครัวอุปถัมภ์ก็ได้ช่วยให้โครงการนี้ให้ประสบความสำเร็จเป็น อย่างมาก และการที่มาปิดโครงการฯ นี้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจุดเริ่มต้น ความเชื่อในหลายๆ ความเชื่อได้มารวมกัน และได้มาเกิดสังคมที่มีความเชื่อหลากหลายนั้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็น อยากให้เด็กๆ ได้ทราบถึงความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบันแล้วเด็กๆ เขาจะสานต่อสิ่งเหล่านี้อย่างไร อยากจะฝากไว้ว่าอนาคตของบ้านเมืองอยู่ในมือของเขาต่อไปในอนาคต