กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
วันที่ 1 เมษายน 2559 เป็นวันสถาปนากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เนื่องในโอกาสครบ 124 ปี ซึ่งในปีนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ศาลพระภูมิ ท้าวเวสสุวัณ ศาลตา - ยาย องค์พระพิรุณทรงนาค และองค์พระพิรุณทรงนาคในพิพิธภัณฑ์ จากนั้นได้เป็นประธานในพิธีสงฆ์ โดยได้ถวายภัตตาหาร และจตุปัจจัยเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์
ต่อมาเวลา 07.30 น. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรข้าราชการพลเรือนดีเด่น และพนักงานราชการดีเด่น และโล่เชิดชูเกียรติของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปี 2559
อนึ่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2435 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเปลี่ยนแปลงชื่ออย่างต่อเนื่อง จากกระทรวงเกษตรพนิชการ มาเป็นกระทรวงเกษตราธิการ กระทรวงเกษตรพาณิชยการ กระทรวงเศรษฐการ กระทรวงเกษตราธิการ กระทรวงเกษตร จนมาสู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปัจจุบัน ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ "เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีความมั่นคงด้านอาหาร เป็นฐานสร้างรายได้ให้แผ่นดิน" โดยส่งเสริมให้เกษตรกรมีการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงานอย่างเหมาะสมและยั่งยืน สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และมีมาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ ส่งเสริมให้มีการจัดสรรทรัพยากรการผลิตทางการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานการเกษตรอย่างพอเพียง มีประสิทธิภาพยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดทั้งส่งเสริมให้มีการวิจัย พัฒนา และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่เหมาะสม โดยมีส่วนราชการในสังกัด จำนวน 16 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กรมชลประทาน กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมพัฒนาที่ดิน กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมการข้าว กรมหม่อนไหม และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รัฐวิสาหกิจในสังกัด จำนวน 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย องค์การสะพานปลา องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และการยางแห่งประเทศไทย และองค์การมหาชนในสังกัด จำนวน 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาและวิจัยการเกษตร สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง และสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในปี 2559 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) ได้กำหนดนโยบายให้เป็นปีแห่งการลดต้นทุนการผลิตภาคเกษตร และเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน โดยมีแนวทางการขับเคลื่อน 4 ด้าน คือ การลดต้นทุน การเพิ่มผลผลิต การบริหารจัดการ และการตลาด เพื่อดำเนินสู่เป้าหมายที่สำคัญ คือ ต้นทุนการผลิตในภาคเกษตรลดลง ผลผลิตมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ผลผลิตมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ มีตลาดรองรับสินค้า และรายได้ของเกษตรกรดีขึ้น ซึ่งได้มีการดำเนินงานผ่านคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) โดยให้ แต่ละหน่วยงานนำผลการดำเนินงานบูรณาการเข้าสู่ระบบเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อการปฏิรูปภาคเกษตรของไทยสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในรูปแบบประชารัฐ พร้อมทั้งสนับสนุนการทำเกษตรอินทรีย์ ให้ได้มาตรฐานสากล โดยตั้งเป้าหมายให้เกษตรกรสามารถสร้างรายได้จากการทำเกษตรผสมผสานในพื้นที่ หรือมีอาชีพเสริม แทนการพึ่งพาการปลูกพืชเฉพาะเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้งเพื่อไม่ให้ประชาชนประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ตลอดทั้งการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตภัยแล้ง ปี 2558/59 ทั้ง 8 มาตรการ ซึ่งได้มีการเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการร่วมรณรงค์ประหยัดการใช้น้ำให้มากที่สุด ทั้งในครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตภัยแล้งนี้ไปได้