กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--ปตท.
นายประเสริฐ สลิลอำไพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่มีบุคคลจะยื่นฟ้องบริษัทพลังงานต่อศาลปกครองในประเด็นการคืนท่อส่งก๊าซ และการดำเนินธุรกิจปาล์มในต่างประเทศ
ปตท. เชื่อมั่นถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยได้คืนท่อส่งก๊าซให้กับกระทรวงการคลังตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปี 2551 ซึ่ง ศาลปกครองสูงสุดได้บันทึกในคำร้องรายงานสรุปของ ปตท. ว่า ปตท. ดำเนินการตามคำพิพากษาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้มีกลุ่มบุคคลได้ร้องขอให้ศาลปกครองกลางไต่สวนการคืนทรัพย์สินของ ปตท. อีกหลายครั้ง และล่าสุด ในวันที่ 12 ธันวาคม 2557 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนยัน ตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้อง และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ จึงเป็นการยืนยันถึงความ บริสุทธิ์และโปร่งใสในการดำเนินการของ ปตท. มาโดยตลอด
สำหรับการดำเนินงานเกี่ยวกับโครงการปาล์มน้ำมันในประเทศอินโดนีเซีย ปตท. ขอยืนยันว่า แม้จะประสบปัญหาด้านการลงทุนซึ่งเป็นปกติของการดำเนินธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นได้ และเมื่อพบประเด็นความไม่ถูกต้องในเรื่องใดก็จะมีการสอบสวนและดำเนินการตามกระบวนการของระเบียบที่มีอยู่ โดยในเรื่องนี้ ปตท. ได้ส่งเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และยื่นฟ้องคดีต่อศาลแพ่งแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. และศาลแพ่ง
"ปตท. ขอย้ำอีกครั้งว่า ปตท. ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสตลอดมา ภายใต้พระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542 และ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 การตรวจสอบ ปตท. จึงทำได้ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถตรวจสอบโครงสร้างต้นทุนทั้งระบบ เพื่อยืนยันความโปร่งใสในการบริหารงานของ ปตท." นายประเสริฐ กล่าว