กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--
สำนักพิมพ์อี.คิว.พลัส ได้จัดงาน "อี.คิว.พลัส จับมือพาร์ทเนอร์ ก้าวสู่ผู้นำคอนเทนท์การ์ตูนไทย" ในวาระครบรอบ 12 ปีขึ้น พร้อมเสวนา ในหัวข้อ"คอนเทนท์การ์ตูนไทย เติบโตอย่างไรในยุคดิจิตอล" และจัดแสดงนิทรรศการ 12 ปี อี.คิว.พลัส
คุณสุรนิตย์ ชุมสาย ณ อยุธยา กรรมการบริหารบริษัท อี.คิว.พลัส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าสำนักพิมพ์อี.คิว.พลัส ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่ผลิตคอนเทนท์การ์ตูนความรู้ฝีมือคนไทยมากว่า 12 ปี และมีหนังสือที่ได้รับความนิยมจากเด็กและเยาวชนไทยอย่างดีออกมามากกว่า 500 ปก อาทิ ซีรีส์ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง (ความรู้วัฒนธรรมนานาชาติ), ซีรีส์ ซูคีเปอร์ จิ๋วหัวใจพิทักษ์สัตว์ (ความรู้เพื่อนรักสัตว์โลก), ซีรีส์โปเม่ สารพันเมนูสูตรลับจอมเวทย์ (ความรู้ด้านอาหารและโภชนาการ),ซีรีส์ไดโนฟาร์ม ผ่าพันธุ์สัตว์ล้านปี (ความรู้สัตว์โลกล้านปี) ฯลฯ ด้วยแนวคิด "สร้างโลกความรู้ ด้วยความสนุก" จนกลายเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจการ์ตูนความรู้ฝีมือคนไทยในปัจจุบันนั้น อี.คิว.พลัส ได้วางเป้าหมายที่จะขยายการเติบโตไปสู่ธุรกิจการสร้างคอนเทนท์การ์ตูนไทยอย่างชัดเจน โดยมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ องค์กรชั้นนำระดับชาติอย่าง "สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือSIPA" และช่องทางสื่อสารระดับโลกอย่าง "เว็บไซต์ Youtube"
"จาก 12 ปีที่ผ่านมา อี.คิว.พลัส ได้เติบโตอย่างมั่นคงและกลายเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจหนังสือการ์ตูนฝีมือคนไทย เรามั่นใจศักยภาพของเราทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งมีหลายประเทศสนใจซื้อลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนของอี.คิว.พลัสไปเผยแพร่ อาทิ ประเทศมาเลเซีย ประเทศเกาหลีใต้ โดยอี.คิว.พลัสเป็นหัวหอกสำคัญของคอนเทนท์การ์ตูนไทยที่บุกตลาดต่างประเทศในกลุ่มลูกค้าเด็ก เราขายลิขสิทธิ์การ์ตูนความรู้ได้กว่า 100 ปก เช่น ซีรีส์ชุดมหันตภัยโลก, ซีรีส์ชุดวายร้ายใกล้ตัว ,ซีรีส์ชุดเจาะตำนานรอบโลก และซีรีส์จากคอนเทนท์การ์ตูนไทยอีกหลายซีรีส์ อาทิ ลา ฟลอร่า, โปเม่, ไดโนฟาร์ม, ซูคีเปอร์จิ๋ว, ด็อกเตอร์ เอ็กซ์ เดวิล และปีนี้คาดว่าจะสามารถเจรจาขายลิขสิทธิ์ได้อีกราว 50 ปกถือเป็นความสำเร็จทั้งในปริมาณของยอดขายและคุณภาพของผลงานที่มาจากคอนเทนท์ที่แข็งแกร่งและการสื่อสารที่ดีของตัวการ์ตูน
ในวันนี้ก้าวต่อไปของอี.คิว.พลัสคือการต่อยอดจากธุรกิจผลิตหนังสืออย่างชัดเจน โดยเราได้ทดลองมาระยะหนึ่งและได้รับการตอบรับที่ดีไม่น้อยทั้งการสร้างแอนิเมชั่น การสร้างบอร์ดเกมเกี่ยวกับความรู้ในประเทศต่างๆ โดยใช้คาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนในซีรีส์ต่างๆของอี.คิว.พลัส หรือการที่ลา ฟลอร่า ได้รับเลือกให้เป็นคาแรกเตอร์หลักในการโฆษณาสินค้า
การสร้างคาแรคเตอร์คือการกำหนดบุคลิกภาพ แต่จะต่อยอดได้ขนาดไหน ประเด็นสำคัญอยู่ที่ผู้รับก็คือเด็กๆซึ่งเป็นแฟนคลับช่วยกันสร้างขึ้นมา ความสำเร็จที่ผ่านมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อี.คิว.พลัส สามารถสร้างคาแรคเตอร์การ์ตูนที่มีคุณภาพและสามารถขยายธุรกิจไปสร้างคอนเทนท์ อื่นๆได้
ปีที่ 12 ของอี.คิว.พลัสจะต้องเติบโตให้กว้างขึ้น สร้างการรับรู้ในคนกลุ่มใหม่ๆจากรากฐานของเรา โลกเปลี่ยนไปเป็นโลกยุคดิจิตอล เราต้องก้าวให้ทันและปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคนี้หนึ่งในการเติบโตของเราคือการสร้างแอนิเมชั่นจาก คอนเทนท์ที่เรามี และเกิดขึ้นจากแนวคิดว่าอยากให้เด็กๆที่ยังอ่านหนังสือไม่คล่องได้ดูแอนิเมชั่นความรู้สนุกๆ ที่เราทำเองในทุกกระบวนการ โดยเริ่มจาการนำคอนเทนท์ยอดนิยมอย่าง "ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง" มาสร้างเป็นแอนิเมชั่นชุดแรก ในชื่อตอน "ตำนานผีเสื้อสีทองแห่งทางช้างเผือก" เป็นความรู้เกี่ยวกับผ้าไหมนานาชาติ และตามมาด้วยแอนิเมชั่นความรู้ ลา ฟลอร่า ชุดที่ 2 ตอน "มหัศจรรย์วันวุ่นกับหุ่นละครเล็ก" ความรู้เกี่ยวกับหุ่นละครเล็ก ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศภาคกลาง ในโครงการ Thailand Digi Challenge 2014จัดโดย สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)หรือ SIPA ทำให้ได้รับการสนับสนุนในการผลักดัน คอนเทนส์การ์ตูนไทย อย่าง "ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง" ให้มีความมั่นใจในคุณภาพภาพมากขึ้น จนล่าสุดมีแอนิเมชั่นความรู้ ลา ฟลอร่า ชุดที่ 3 ตอน "ลา ฟลอร่า โก โก อาเซียน" โดยเป็นแอนิความรู้เกี่ยวกับประเทศต่างๆในอาเซียน และเปิดตัวครั้งแรกในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 44 นี้อีกด้วย
ในส่วนของเว็บไซต์ Youtube นั้น อี.คิว.พลัส.กรุ๊ป จะเปิดชาแนลของตัวเองบน Youtube คือช่อง E.Q.Plus Official ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก Youtube ประเทศไทย และวันที่เราแถลงข่าวนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก "ถึงแม้ว่ากลุ่มเป้าหมายของอี.คิว.พลัส.ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กๆจะยังใช้สื่อโซเชียลมีเดียไม่มากนัก แต่เรามองว่านี่คืออนาคต"
คุณสุรนิตย์ ชุมสาย ณ อยุธยา ยังกล่าวด้วยว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมจะซบเซาและธุรกิจหนังสือก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบไม่น้อย แต่ยังเชื่อมั่นว่าทุกอย่างอยู่ที่การปรับตัว ในกรณีของอี.คิว.พลัส กรุ๊ป ซึ่งไม่ได้วางตัวเองไว้เป็นเพียงสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือเท่านั้นตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา แต่วางเป้าหมายไว้ว่าต้องเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์การ์ตูนไทย สถานการณ์เช่นนี้คือสถานการณ์ที่สามารถพิสูจน์ศักยภาพได้อย่างดีเยี่ยม
"เราผลิตหนังสือปีละประมาณ 50 ปก ตลาดการ์ตูนความรู้ในประเทศไทยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ประมาณ 25 % ของหนังสือทุกประเภท แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อลิขสิทธิ์ประมาณ 60 % และเป็นการ์ตูนความรู้ฝีมือคนไทยคือ 40 % ซึ่งในธุรกิจการ์ตูนความรู้ฝีมือคนไทยนี้ อี.คิว.พลัส กรุ๊ป มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 70%"
อย่างไรก็ตามอี.คิว.พลัส กรุ๊ป ไม่ได้หยุดตัวเองที่ธุรกิจหนังสือ เรามองกว้างกว่านั้น และวางตัวเองให้เป็นคอนเทนท์โพรไวเดอร์ที่สร้างคาแรคเตอร์การ์ตูนไทย ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในธุรกิจต่างๆได้หลากหลายตั้งแต่ต้น ซึ่งต่อไปจะมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆมากขึ้น นอกจาก SIPA และ Youtube สถานการณ์โดยรวมตอนนี้เป็นสภาวะที่น่าสนใจมากว่าเราจะพลิกตัวอย่างไรให้เร็วกว่าเดิม ในโลกยุคดิจิตอล เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นโอกาสใหม่ๆและท้าทายอย่างยิ่ง
"เราตั้งเป้าขายลิขสิทธิ์ไปยังต่างประเทศ เราทำกับหนังสือการ์ตูนความรู้ที่นำความรู้มาคู่กับความสนุกได้แล้ว ต่อไปจะขยายไปยังคาแรคเตอร์ให้มากขึ้นอย่างชัดเจน และไม่ใช่เพียงการเติบโตในแง่ของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการผลักดันและการสร้างวัฒนธรรมไทยให้เติบโตไปยังต่างประเทศอีกด้วย" คุณ สุรนิตย์ ชุมสาย ณ อยุธยา กล่าว