ตลาดหลักทรัพย์ปรับกลยุทธปี 2544 มุ่งการตลาดเชิงรุกเน้นเพิ่มสินค้าและขยายฐานผู้ลงทุนเพื่อเร่งฟื้นตลาดทุนไทย

ข่าวทั่วไป Monday March 19, 2001 10:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศกลยุทธ์ปี 2544 เน้นการวางรากฐานและเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตลาดทุนไทย โดยใช้การตลาดเชิงรุกหาบริษัทเข้าจดทะเบียนเพิ่ม และการขยายฐานผู้ลงทุน พร้อมยกระดับความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อประโยชน์ของนักลงทุน พร้อมเดินหน้าตามแผนเพื่อเร่งฟื้นตลาดทุนไทย ภายใต้โครงสร้างการบริหารงานใหม่ที่ลดบทบาทการกำกับดูแล และเพิ่มบทบาทการให้บริการพัฒนา คาดปี 2544 จะสามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 48,000 ล้านบาท
นายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2544 นี้ ตลาดหลักทรัพย์จะใช้กลยุทธการตลาดเชิงรุก เพื่อเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียน และขยายฐานผู้ลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับให้ความสำคัญในการผลักดันให้บริษัทจดทะเบียน มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน และเพื่อการเติบโตของธุรกิจในประเทศ
"ในลำดับแรกของแผนการเพิ่มสินค้า เจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์จะเร่งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการนำธุรกิจเข้าจดทะเบียน ด้วยการเข้าพบปะกับผู้ประกอบธุรกิจโดยตรง และใช้กลยุทธกระตุ้นความสนใจของผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ จัดให้มีบริการก่อนและหลังการเข้าจดทะเบียน โดยใช้แนวทางสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าหรือ Happy Plus Service เช่น การบริการให้คำปรึกษา การจัด Roadshow การจัดสัมมนาให้ความรู้ ในขณะเดียวกัน ก็จะเร่งผลักดันให้มีตราสารใหม่เข้าซื้อขาย เช่น Non-Voting Depository Receipt (NVDR) Index Options และกองทุนรูปแบบใหม่ๆ เป็นต้น สำหรับกลยุทธ์ในการเพิ่มจำนวนสินค้าอีกประการหนึ่ง จะเน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าของตลาดหลักทรัพย์ โดยมีการผลักดันระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี การเพิ่มสิ่งจูงใจ เช่น ลดค่าธรรมเนียมรายปี และการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเร่งการสร้างระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี"
นายยุทธ วรฉัตรธาร รองผู้จัดการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) กล่าวถึงกลยุทธ์การเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ว่า "ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ ได้มีการกำหนดเป้าหมายทุนจดทะเบียนของบริษัทที่จะเข้าซื้อขายในปีนี้จำนวน 2,000 ล้านบาท ด้วยการส่งเสริมและผลักดันบริษัทที่กำลังเตรียมตัวให้เข้าจดทะเบียนโดยเร็ว เพื่อสร้างฐานลูกค้าระยะสั้น และขยายฐานลูกค้าในระยะยาว พร้อมทั้งขยายขอบเขตการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขาย ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในด้านผู้ประกอบธุรกิจและผู้ลงทุนด้วย"
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์จะประสานงานกับภาครัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อความร่วมมือกันในการผลักดันให้มีธุรกิจที่มีคุณภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น โดยในวันที่ 31 มีนาคมที่จะถึงนี้ ตลาดหลักทรัพย์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุนไทยจัดงานสัมมนาระดมความคิดเพื่อพัฒนาตลาดทุน ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการฟื้นตลาดทุนไทย และในเดือน เมษายน 2544 จะมีการจัดงานสัมมนาเรื่อง "การกำกับดูแลกิจการ พื้นฐานความสำเร็จที่ยั่งยืน"
"ด้วยกลยุทธ์การดำเนินงานด้านการเพิ่มจำนวนสินค้าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คาดว่าตลาดหลักทรัพย์จะสามารถเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มขึ้นอีก 48,000 ล้านบาทได้ในปีนี้" นายวิชรัตน์กล่าว กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อขยายฐานผู้ลงทุนว่า "สำหรับการขยายฐานผู้ลงทุนในปี 2544 จะมีกิจกรรมและบริการหลายประเภทที่จะมาตอบสนองความต้องการของทั้งผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนสถาบัน อาทิ งานส่งเสริมการลงทุนในหลักทรัพย์ Investor Fair ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 8 - 12 มิถุนายน 2544 เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดทุนแก่ผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย การให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนอัตโนมัติ (Call Center) การปรับปรุงข้อมูลบนเว็บไซต์เพื่อสนองความต้องการของผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ การจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง การจัดโครงการให้ความรู้ด้านการเงินแก่เยาวชน (SET Junior Achievement Thailand : SET-JAT) การจัดให้บริษัทจดทะเบียนให้ข้อมูลโดยตรงแก่ผู้ลงทุนสถาบันมากขึ้น ทั้งนี้ ตราสารใหม่ที่คาดว่าจะสามารถซื้อขายได้ในปีนี้ เช่น NVDR Index Options และกองทุนรูปแบบใหม่ๆ ก็จะช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้ลงทุนได้เช่นกัน"
นอกจากนี้ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์ ได้กำหนดแผนงานเพื่อเพิ่มช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน รวมทั้งให้บริการแก่บริษัทหลักทรัพย์ในหลายรูปแบบ โดยนายสมคิด จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็ทเทรดดอทคอม จำกัด ได้กล่าวถึงแผนงานในปีนี้ว่า "ในปี 2544 นี้บริษัทฯจะจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานของระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตในระยะยาว เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ รวมทั้ง จัดให้มีการให้บริการโอนเงินออนไลน์ เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเพิ่มวงเงินซื้อขายหุ้นได้ทันที พร้อมกับจะมีระบบเตือนผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เมื่อราคาถึงระดับที่ต้องการ การสร้างระบบส่งคำสั่งซื้อขายแบบ all-in-one แบบทันใจ การจัดตั้ง SETTRADE corners ในต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกกับนักลงทุนต่างจังหวัดให้สามารถซื้อขายหุ้นผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และปลอดภัย โดยจะมีผู้แนะนำวิธีการใช้ระบบแก่ผู้ลงทุนด้วย นอกจากนี้แล้ว ยังจะมีการเพิ่มข้อมูลสำหรับการตัดสินใจซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้นบน WWW.SETTRADE.COM รวมทั้งจะสร้างแหล่งพบปะสนทนาทางอิเล็คทรอนิคส์กับนักวิเคราะห์ของบริษัทสมาชิกต่าง ๆ ด้วย"
นายวิชรัตน์ กล่าวว่า นอกจากแผนการดำเนินงานหลักดังกล่าวแล้ว ยังได้มีการปรับปรุงระบบหลังการซื้อขาย (Clearing and Settlement System) หลายประการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดต้นทุนของทั้งผู้ลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ โดยนางนงราม วงษ์วานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัทฯจะมีการปรับปรุงระบบข้อมูลการรับฝากหลักทรัพย์ให้เป็นระบบทันเวลา (Real Time Depository Records - RTDR) เพื่อให้ผู้ถือหลักทรัพย์สามารถเรียกดูข้อมูลที่ทันสมัยได้ตามความต้องการและทันเวลา และช่วยลดปัญหาการนำหลักทรัพย์ของลูกค้ารายอื่นมาส่งมอบแทนลูกค้าที่ผิดนัด นอกจากนี้ ยังจะมีการส่งเสริมให้หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นระบบไร้ใบหุ้นอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญหายของใบหุ้น ช่วยลดต้นทุนการออกใบหุ้น รวมทั้ง ช่วยให้การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์รวดเร็วขึ้น ซึ่งรวมถึงการพัฒนาระบบการชำระราคาและส่งมอบตราสารอนุพันธ์เพื่อรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทดังกล่าวในอนาคตด้วย และทำการศึกษาการเชื่อมโยงกระบวนการซื้อขายหลักทรัพย์และการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (Straight Through Processing - STP) เพื่อลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงแก่ระบบ ลดความเสี่ยงจากการผิดนัดส่งมอบ และลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของทั้งอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาให้ตลาดทุนไทยก้าวไปในระดับนานาชาติและสามารถรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ข้ามตลาดได้ในอนาคต"
นายวิชรัตน์ กล่าวปิดท้ายว่า "ตลาดหลักทรัพย์เชื่อมั่นว่าการบริหารงานตามโครงสร้างใหม่ที่ประกาศใช้ในปี 2544 เป็นต้นไป ภายใต้นโยบายในการลดบทบาทในการกำกับดูแล และเพิ่มบทบาทในการให้บริการและพัฒนาตลาดทุน จะสนับสนุนให้แผนงานเชิงรุกซึ่งมีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจนของตลาดหลักทรัพย์ ช่วยฟื้นตลาดทุนไทยให้แข็งแกร่งขึ้น และพัฒนาตลาดทุนไทยที่ยั่งยืนในระยะยาว"
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสารนิเทศ
ลดาวัลย์ ไทยธัญญพานิช โทร. 229 - 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร.229 - 2037
จิวัสสา ติปยานนท์ โทร. 229 - 2039--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ