กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--จีอี ประเทศไทย
โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในประเทศมาเลเซียสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบท้องถิ่นได้อีก 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับประชาชนเกือบ 2 ล้านคน
โครงการมูลค่า 1 พันล้านยูโร ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี ได้เสร็จสมบูรณ์ด้วยการทำงานร่วมกัน ของบริษัทระดับโลก ได้แก่ จีอี Mudajaya และ Shin Eversendai
จีอี (NYSE:GE) ประกาศว่าโรงไฟฟ้า Tanjung Bin Energy (T4) ขนาดกำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ของ Malakoff Corporation Berhad (Malakoff) ประเทศมาเลเซีย สามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้โรงไฟฟ้ามูลค่ากว่า 1 พันล้านยูโรแห่งนี้ สร้างขึ้น โดยความร่วมมือของแผนกเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าถ่านหินของจีอี (Steam Power Systems) กับพันธมิตร Mudajaya และ Shin Eversendai ซึ่งดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาที่ครอบคลุมการออกแบบ งานวิศวกรรม การจัดหาอุปกรณ์ และการควบคุมการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดที่ใช้เทคโนโลยี อัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล (ultra-supercritical) ของจีอีแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม 2555 และเสร็จสมบูรณ์ ภายในเวลา 4 ปีตามที่ได้กำหนดไว้
จีอีเป็นผู้นำของกลุ่มผู้รับเหมาร่วมนี้โดยรับผิดชอบด้านวิศวกรรม การจัดหาอุปกรณ์หลัก และรับผิดชอบ การผสานการทำงานทุกส่วนเข้าด้วยกัน รวมทั้งการติดตั้งและทดสอบระบบการทำงานของโรงไฟฟ้า
โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้กังหันไอน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดของจีอี และหม้อไอน้ำแรงดันสูงที่เรียกว่า อัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล และระบบกำจัดมลภาวะ ที่ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะของจีอีอีกด้วย
การปล่อยก๊าซพิษของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ลดลงอย่างมากจากการใช้เตาเผาไหม้ถ่านหินแบบที่ลดการเกิด ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (Low NOx burner) ใช้ระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Flue Gas Desulfurization: FGD) แบบใช้น้ำทะเลเป็นตัวทำปฏิกิริยาที่ทรงประสิทธิภาพ และใช้อุปกรณ์ดักเก็บ ฝุ่นละอองด้วยผ้ากรอง ระบบทั้งหมดที่ติดตั้งนี้ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ ซัลเฟอร์ออกไซด์ และฝุ่นละออง
นายฮาบิบ ฮูซิน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Malakoff Corporation Berhad กล่าวว่า "การใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงของจีอีที่โรงไฟฟ้า T4 ช่วยให้เรามั่นใจว่าสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ในราคาที่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีอัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล และจะผลิตกระแสไฟฟ้าส่งเข้าระบบเพิ่มอีก 1,000 เมกะวัตต์"
นายแอนเดรียส ลูซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าถ่านหินของจีอี กล่าวว่า "แผนกเทคโนโลยี โรงไฟฟ้าถ่านหินของจีอี เป็นผู้บุกเบิกระบบการผลิตไอน้ำด้วยเทคโนโลยีอัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล ปัจจุบันจีอีเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าของระบบอัลทรา-ซูเปอร์คริติคัล โดยจีอีสามารถออกแบบโรงไฟฟ้าถ่านหินให้มีประสิทธิภาพได้สูงถึง 47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่า ประสิทธิภาพเฉลี่ยของโรงงานถ่านหินทั่วไปซึ่งสามารถทำประสิทธิภาพได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ละเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 2 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์"
"โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในความมุ่งมั่นของจีอีที่จะพัฒนาให้เกิดการใช้เชื้อเพลิงอย่างผสมผสานและ หลากหลายในภูมิภาคนี้ โรงไฟฟ้า T4 แห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับประชากรถึง 2 ล้านคน" นายแอนเดรียส กล่าวเสริม
แผนกโรงไฟฟ้าถ่านหินของจีอี มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไอน้ำมามากกว่าหนึ่งศตวรรษ และติดตั้ง ระบบการผลิตมาแล้วกว่า 320 กิกะวัตต์ทั่วโลก ด้วยการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นถ่านหิน หรือพลังงานนิวเคลียร์ หรือชีวมวล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แผนกโรงไฟฟ้าถ่านหินของจีอีสามารถเสนออุปกรณ์ในระบบอย่างครบถ้วนและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเสนอขายอุปกรณ์ต่างๆ ไปจนถึงการเสนอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าทั้งระบบและให้การสนับสนุนเคียงข้าง พันธมิตรด้วยการให้บริการบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างเต็มรูปแบบ
Malakoff เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าและน้ำอิสระที่เน้นการผลิตกระแสไฟฟ้า การกลั่นน้ำทะเล รวมทั้งการเดินเครื่อง และบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า Malakoff เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีโรงไฟฟ้า 6 แห่ง และมีกำลังการผลิตสุทธิรวม 6,346 เมกะวัตต์