กรุงเทพฯ--8 เม.ย.--อาร์เอส
เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ล่าสุดนักแสดงหนุ่มกล้ามโต "เอ-พศิน เรืองวุฒิ" ขอนัดพี่น้องสื่อมวลชนตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังเข้าอัดลรายการในรายการ "บันเทิง 108" ทาง "ช่อง 8" หมายเลข 27 ว่าถึงกรณีที่ตัวเองโดนโกงค่าตัวเป็นจำนวนเงินกว่า 7 หลักจากการถ่ายรายการ "LIKE สาระ Siam Signatue Story" ทาง เคเบิ้ลทีวีช่องหนึ่ง โดย "หนุ่มเอ" ขอเคลียร์ทุกอย่างแบบหมดเปลือก รวมถึงกรณีโพสข้อความทวงเงินผู้จัดผ่านโซเชี่ยล
เรื่องราวเป็นยังไง ?
"ก็เป็นรายการนี้ครับ ตามเสื้อที่ผมใส่เลย ชื่อรายการ LIKE สาระ Siam Signatue Story มันเกิดขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน มีเอ็กซ์ตร้าของรายการเกมโชว์เขาอยากมีรายการเป็นของตัวเอง เขาเลยมาคุยกับผมว่าอยากทำรายการติดต่อผมเป็นพิธีกร โดยถ่ายเดโม 2 เทป ส่งเสนอช่อง TGN นอกจากถ่ายแล้วก็อยากให้ผมไปยืนยันกับทาง TGN ว่าผมเป็นพิธีกรให้จริงๆ ก็ถ่ายให้ฟรี 2 เทป แล้วเขาก็ให้ค่าตัวมา 2 เทป ผมก็โอเคมันเป็นระบบที่น่าเชื่อถือ ก็อยากให้โอกาสคน เลยรับทำให้ พอได้เวลาช่อง TGN มา เขาก็มีแพลนว่าจะถ่ายประมาณ 30 เทป หลังจากนั้นก็ถ่ายทำกันมาเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่ได้ค่าตัว คือ ผมก็สงสัยว่าทำไมรายการถึงไม่มีสปอนเซอร์ทั้งๆ ที่ถ่ายหลายจังหวัดมาก มีไปที่ลาว ที่เกาหลีด้วย แม้แต่ปิดกล้องก็ไปปิดที่ฝรั่งเศส ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนใกล้ๆ เทปที่ 30 เขาบอกว่าบ้านเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมอยู่ที่มาเลเซีย แต่เขาบอกน้องอีกคนหนึ่งว่าอยู่ที่ลาว พอเขาเริ่มทำรายการออกอากาศได้สำเร็จที่บ้านก็เริ่มเห็นผลงานขอเขา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาบอกว่าเขาถูกตัดหางปล่อยวัดเพราะเขาเป็นเพศที่ 3 แล้วก็มามีแฟนที่เมืองไทย คุณพ่อก็เลยยกกิจการให้น้องสาวดูแลทั้งหมด ไม่ให้เงินเลย แต่พอเห็นความสามารถว่าทำรายการได้จริงๆ แล้วก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ คุถณพ่อก็จะให้เงินมา 30 ล้านเพื่อทำรายการ เขาบอกทีมงานทุกคนรับรู้ร่วมกันทั้งทีมตัด ทีมกล้อง และผู้ร่วมลงทุนว่าเดี๋ยวเราจะได้เงิน 30 ล้าน ผมจะได้ค่าตัว 7 หลัก ได้เทปละประมาณ 25,000 บาท บวกกับค่ากำกับอีก เพราะรายการนี้ไม่มีผู้กำกับรายการ ผมก็ช่วยในเรื่องการออกแบบ มีออกแบบซีดีให้ ฟรีนะครับ ออกแบบเสื้อ ออกแบบรูปแบบรายการ ช่วยกำกับรายการด้วย รวมก็ตกอยู่ประมาณเทปละ 30,000 ถ่ายกันมาปีกว่า ประมาณเดือนเมษาปีที่แล้วก็มีการจัดทัวร์เกิดขึ้นว่า ไปถ่ายที่เกาหลี เขาก็จัดบริษัททัวร์ขึ้นมา เอาเงินจากลูกทัวร์ แล้วก็มีปัญหาเกิดขึ้นทำไมไม่ได้ไปซักที ผมก็เลยรู้สึกว่าทำไมมันแปลกๆ เลยลองโทรไปที่บริษัททัวร์ที่เป็นสปอเซอร์ คือช่วงนั้นมีบริษัททัวร์เป็นสปอนเซอร์นะครับอยู่ 2-3 เทป บริษัททัวร์ผมจำชื่อไม่ได้เขาบอกว่าไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้เป็นสปอร์เซอร์เลยตั้งแต่เทปแรก หลังจากนั้นเขาก็หายไป รายการก็ถูกยุบ เขาก็มาขอโทษ พี่ผมขอโทษไม่น่าโกหกเลย ขอบคุณที่ให้โอกาสเขาดูน่าสงสารมาก แล้วเขาก็รับปากว่าจะชดใช้ ตอนนี้ผ่านไป 2 ปีแล้ว ไม่มีการติดต่อใดๆ จนผมลืมไปแล้วว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินที่เราควรจะได้ เพราะเราทำงานให้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ถามเลยว่าเมื่อไหร่จะได้ เพราะตอนนั้นเขายังไม่มี ก็ทราบว่าเขาก็เริ่มชดใช้ให้กับบางท่านที่ทวงถาม หรือบางท่านที่ฟ้องร้อง ทราบว่ามีการไปขึ้นศาล และมีการผ่อนจ่าย 3,000-5,000 แล้วแต่ว่าตกลงกันยังไง ไม่มีเงินไม่ผิด มีโอกาสเราให้ได้ แต่โกง โกหกเป็นเรื่องผิด คุณต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำ อย่างน้อยใช้วันละบาทก็ยังดีกว่าไม่ใช้"
เราดำเนินการยังไงไปบ้างแล้ว ?
"นี่เป็นการดำเนินการครั้งแรก อย่างแรก คืออยากให้เขารับรู้ ชื่อคุณประจักษ์ เทพกุญชร"
จะฟ้องร้องอะไรไหม ?
"ยังไม่มีครับ"
ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อเขาไปไหม ?
"ไม่มีครับ ผมทราบจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เขาลงทุนไปบางคนเสียหาย 400,000-500,000 ที่ร่วมลงทุนไป ซึ่งเขาอาจจะไปกู้มา แล้วก็ผู้เสียหายจากการทำทัวร์ปลอมๆ ของเขา เขาก็มีการชดใช้ ได้ข่าวว่าใช้ใกล้จะหมดแล้ว อ้าวแล้วของเราล่ะ อย่างน้อยก็มาคุยกันหน่อยไหม ที่ไม่บอกสื่อจริงๆ คือสงสารและเห็นใจแต่ว่าเขาแย่เกินไป"
มีการติดต่อบ้างไหม ?
"ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ"
30 เทปที่ถ่ายไปไม่สงสารอะไรเลย ?
"เอะใจนะครับแต่ตอนนั้นเนี่ย คือเราไม่คิดว่าเราจะไม่ได้เงิน เวลาเราไว้ใจเราให้โอกาสใคร เราสงสารเขา คือผมเคยส่งเขาไปบำบัดในเรื่องความไม่เชื่อมั่นในตัวเอง กับนักจิตวิทยาที่เป็นเพื่อนผมเอง แล้วอยู่ดีๆ เขาก็ร้องไห้ขึ้นมาแล้วก็ขอโทษ แจ่ไม่รู้ขอโทษเรื่องอะไร คงจะเป็นเรื่องเงินที่เขายังไม่จ่าย หรือจ่ายช้า แต่ไม่คิดว่าข้างในใจเขามันมีมากกว่านั้นจริงๆ ที่ต้องมาบอกตรงนี้นะครับเพราะว่าพอเราทราบว่าเขายังใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ แล้วเขาอาจจะอาโปรไฟล์รายการนี้อาจจะไปขอสปอนเซอร์หรือว่าเพื่อต่อยอดไปทำอย่างอื่น ทำได้นะครับ ไม่ว่าแต่มาเคลียร์ก่อน เพราะว่าผมไม่อยากติดค้ากับตุณไปถึงชาติหน้าเจอกันชาตินี้ก็พอแล้ว(ยิ้ม)"
เราคิดเรื่องนี้มาตลอด ?
"คิดครับ แต่ด้วยความที่เป็นคนประนีประนอม เคยขึ้นศาลแต่ในละคร ถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่อยากขึ้น"
หลังจากนี้จะติดต่อเขาไปไหม ?
"เขาต้องติดต่อผมมา ผมทำมากที่สุดได้แค่นี้ ที่ผมทำร้ายเขามากที่สุดก็คือบอกชื่อ ถ้าเขาไม่รับผิดชอบ อันนี้ก็เป็นกรรมของคุณแล้วล่ะที่คุณต้องรับผิดชอบตัวเอง"
ถ้าเขาไม่ติดต่อมาล่ะ จะดำเนินคดีไหม ?
"ไม่มีครับ อันนี้คือการพิพากษาขั้นรุนแรงที่สุดของผมแล้ว ถ้าคุณมีสามัญสำนึก และต้องการเคลียร์ตัวเองติดตี่อกลับมา แล้วก็ชดใช้"
คิดว่าจะได้ครบไหม ถ้าได้ไม่ครบทำยังไง ?
"ผมเชื่อว่าไม่ครบ ที่ 2 ปีที่แล้ว ผมไม่ทวงเพราะว่าเขาไม่มีเงิน แล้วคนไม่มีเงิน คนมันจนตรอกจนแต้มมันไปไหนไม่ได้จริงๆ ถเผมทวงเขาตอนนั้น บีบคั้นเขาตอนนั้นเขาอาจจะไม่มีชีวิตอยู่มาใช้เงินผมในวันข้างหน้าก็ได้ ก็เลยให้โอกาสแต่ไม่ควรจะหายไป ยืนยันหน่อยว่าคุณยังมีชีวิตอยู่และจะชดใช้ เท่านั้นเองครับ"
ต่อไปต้องระวังเรื่องรับงานมากขึ้น ?
"เมื่อก่อนไม่ระวังเพราะว่าผมชอบให้โอกาศคน ผมก็มาจากเอ็กซ์ตร้า ผมไม่ใช่อยู่ๆ เป็นพระเอก ผู้ร้าย มีบทเยอะๆ ค่าตัวแพงๆ ผมมาจากนักแสดงเด็ก ออกจากวงการไปและกลับมาตอน 22 มาเป็นเอ็กซ์ตร้า ผมเลยเข้าใจจุดยืนของเขาว่าการไม่มีเงินมันลำบาก กว่าจะขึ้นมาที่มีบทพูด กว่าจะได้รับค่าตัวที่เราสามารถซับพอร์ตครอบครัวได้มันเหนื่อยก็เลยให้โอกาสเขาไป จริงๆ ก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อนะครับ"
ก่อนหน้านี้เห็นโพสเรื่องคาตัวนักแสดง เหมือนทวงเงินผู้จัด ?
"ตรงนี้มันเป็นการทวงตามปกติ ผมเป็นหนึ่งฝในนักแสดงในหลายๆ คนที่ได้ค่าตัวช้า เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง คือคนอยากเป็นดาราเยอะก็เลยต้องเล่า(ยิ้ม) ชีวิตนักแสดงมันไม่ได้สบาย เมื่อก่อนปิดกล้องปุ๊บ 15 วันจะได้เงิน บางเรื่องไม่ทีนปิดกล้องปิดตัวปุ๊บได้ค่าตัวแล้ว เราก็จะวางแผนการใช้เงินได้อย่างดี ละครเรื่องหนึ่งเมื่อก่อนถ่ายแค่ 3 เดือน เดี๋ยวนี้ 7-8 เดือน รอไปอีก 3 เดือน บางเรื่องรอ 5 เดือน หรือบางคนยังไม่ได้เลยหรือได้ครึ่งเดียว นักแสดงที่เข้ามาในวงการต้องวางแผนการเงินใหม่หมด เพราะว่าเราต้องจ่ายสรรพกรณ์ด้วย เราต้องซับพอร์ตครอบครัว ค่าใช้จ่ายรายวัน หนี้รายเดือน แต่ถ่าเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าปิดกล้องตอนนี้ อีกกี่วันได้เงินชีวิตมันยากมาก เหมือนทำงานปีหนึ่งแล้วรับเงินปลายปี ตรงนี้ผมเลยอยากให้ทางค่ายทุกค่าเลยนะครับมีความชัดเจนรว่าปิดกล้องกี่วันได้เงินกี่ตอน ได้เงินทั้งหมดเมื่อไหร่ แต่ว่าทางช่องที่เล่นอยู่ตอนนี้ยังม่ามีปัญหา มีบางค่าย แต่หลังจากที่ผมโพสไปเช็คออกเลยทั้ง 2 ช่อง อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้"