กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จัดงานฉลองครบรอบ 3 ปีของร้านกาแฟสตาร์บัคส์ สาขาหลังสวน ซึ่งเป็นร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งแรกในเอเชียและนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้คอนเซปต์ Coffee | Community | Celebrations เพื่อชวนดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ความรื่นรมย์จากการเดินทางของกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ การแฟสายพันธุ์ไทยจากพื้นที่เพาะปลูกทางภาคเหนือของไทย พร้อมสานต่อเจตนารมย์ในการช่วยเหลือชุมชนชาวไร่กาแฟ โดยบริจาคเงินจำนวน 4,500,000 บาท ให้แก่องค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (The Integrated Tribal Development Program: ITDP) เพื่อการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ภายในงานที่จัดขึ้น ณ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพื่อชุมชน สาขาหลังสวน ในบรรยากาศเป็นกันเองสุดประทับใจ
นาย เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ร้านกาแฟเพื่อชุมชนของสตาร์บัคส์ตั้งขึ้นด้วยปณิธานที่ว่า หากชุมชนได้รับการดูแลให้เติบโตเป็นอย่างดีแล้ว ทุกคนที่อาศัยในชุมชนก็จะได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยร้านกาแฟเพื่อชุมชนแต่ละร้านมีแนวทางการดำเนินการที่แตกต่างกันไปตามแต่ความต้องการของแต่ละชุมชน โดยลูกค้าที่เข้ามารับบริการ ณ ร้านสตาร์บัคส์สาขาหลังสวนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้เกิดแก่ชีวิตของชุมชนชาวไร่ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่ยากลำบากและอยู่ห่างไกลได้ เพราะทุก ๆ 10 บาทของการซื้อเครื่องดื่มในสตาร์บัคส์แห่งนี้จะถูกนำไปสมทบทุนในการพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟภาคเหนือของประเทศไทย ภายใต้คำมั่นสัญญาของสตาร์บัคส์ที่ต้องการตอบแทนคืนสู่ชุมชน"
ในโอกาสนี้สตาร์บัคส์ได้บริจาคเงินจำนวน 4.5 ล้านบาทซึ่งเป็นรายได้จากทุก ๆ 10 บาทในการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วในร้านกาแฟสตาร์บัคส์สาขาหลังสวนตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา รวมกับรายได้ 5 เปอร์เซ็นต์จากการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋ทั่วประเทศให้แก่ ITDP โดยมีนาย ไมค์ แมนน์ ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Program: ITDP) เป็นผู้รับมอบ
ในช่วงพูดคุยบนเวที นางสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร กล่าวว่า "ในการสนับสนุนดังกล่าว สตาร์บัคส์ต้องการตอกย้ำความสำคัญ ในเรื่องของคุณภาพของเมล็ดกาแฟและชาวไร่กาแฟตามหลักการปฏิบัติในการรับซื้อเมล็ดกาแฟ C.A.F.E. (Coffee and Farmer Equity Practices) โดยจะคำถึงถึงคุณภาพของผลผลิต และความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจในการปลูกกาแฟที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ รวมไปถึงการรับซื้อเมล็ดกาแฟคุณภาพในราคายุติธรรม (Ethical Sourcing) การปลูกกาแฟแบบปลอดสารเคมีและให้เติบโตตามธรรมชาติภายใต้ร่มไม้ใหญ่โดยไม่มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Environment Stewardship) และการมีส่วนร่วมช่วยเหลือชุมชนที่สตาร์บัคส์ดำเนินธุรกิจอยู่ (Community Involvement) เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมและได้มาตรฐานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาผลิตเป็นกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์"
ด้านนาย ไมค์ แมนน์ กล่าวว่า "เงินสมทบทุนที่ ITDP ได้รับถูกนำไปใช้เพื่อช่วยพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟ รวมถึงช่วยในการสนับสนุนการบริการจัดการการดำเนินโครงการฯ อย่างยั่งยืน ทั้งในด้าน สาธารณูปโภคระบบประปา ระบบสาธารณสุข สถานีอนามัยชุมชน รวมไปถึงการศึกษาในชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ทางด้านเกษตรกรรม ด้านช่างยนต์ และพัฒนาทักษะการสื่อสารเพื่อต่อรองในการจำหน่ายผลผลิต เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของชุมชนชาวเขาให้ดียิ่งขึ้น"
โดยภายในงานมีการสาธิตการชิมกาแฟสัญชาติไทย ม่วนใจ๋ เบลนด์ โดยคุณย้ง – นพรัตน์ อาภรณ์สุวรรณ Starbucks Coffee Ambassador 2015 และแชมป์ Starbucks Asia Pacific Barista Championship 2016 เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับสุนทรียรสอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟพันธุ์อราบิก้าชั้นดีจากประเทศไทยและหมู่เกาะในเอเชียแปซิฟิก ให้รสชาติหนักแน่น นุ่มลึก และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและกลิ่นไอดินธรรมชาติ
พร้อมกันนี้ นิทรรศการภาพถ่าย ม่วนใจ๋ แกเลอรี่ ยังช่วยเปิดประตูสู่ที่มาของกาแฟจากชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของพร้อมบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจ จากความร่วมมือของสตาร์บัคส์กับ ITDP ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟในด้านต่าง และ ปิดท้ายด้วยกิจกรรม 'Starbucks Sip & Paint' ที่แขกผู้มีเกียรติ ได้แสดงฝีมือการสร้างสีสันและลวดลายแบบฉบับ Tribal Chic บนถุงผ้าดีไซน์ลายม่วนใจ๋เบลนด์ อิดิชั่น ร่วมกับการจิบกาแฟสตาร์บัคส์ ยามบ่ายควบคู่อาหารว่างในสไตล์ Northern Delights โดยผู้ร่วมงานยังสามารถส่งผ่านความปรารถนาดี ผ่านโปสการ์ดลวดลายพิเศษเพื่อส่งมอบคำขอบคุณและความรู้สึกดี ไปยังชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย ๆสำหรับกาแฟคุณภาพที่ส่งผ่านมาในกาแฟทุกแก้วในทุกๆวัน