กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--House of PR
หลักทรัพย์บัวหลวงผู้นำตลาด DW เผยนักลงทุนซื้อขาย DW ไตรมาสแรกวอลุ่มพุ่งทำสถิติใหม่อีกครั้ง "SET50-PTT-PTTEP" ยอดนิยม พร้อมเตือนนักลงทุนติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิดกรณี DW ถูกแขวน SP ห้ามซื้อขาย เผยเตรียมส่ง DW อิง GL, GPSC ครั้งแรกในประเทศไทยเทรด 11 เม.ย. รับเทศกาลสงกรานต์
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 1/2559 คึกคัก ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 119.68 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 9.29 จากสิ้นปี 2558 มาปิดที่ 1,407.70 จุด จากเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) คิดเป็นสัดส่วนต่อปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบที่ 5.5% สูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2552 ที่มีการเสนอขาย DW ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยหุ้นอ้างอิงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ 36.0%, กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 18.2%, กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 17.3% นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจซื้อขาย Call DW เป็นหลักในสัดส่วนที่สูงถึง 61.0% ของปริมาณการซื้อขาย DW ทั้งหมดสอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดทั้งไตรมาส และหากเปรียบเทียบกับช่วง 2 ไตรมาสย้อนหลังที่ผ่านมา สัดส่วนการเทรด Call DW อยู่ในระดับเฉลี่ยเพียง 47.5% เท่านั้น
ในช่วงแรกของไตรมาส ตลาดหุ้นได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังซาอุดิอาราเบียและอิหร่านบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอย่างรัสเซียที่จะคงกำลังการผลิต รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมและเพิ่มวงเงิน QE อีก 20,000 หมื่นล้านยูโร/เดือน ส่วนธนาคารกลางสหรัฐก็คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25-0.50% ตามที่นักลงทุนคาด ตลอดจนปัจจัยหนุนในประเทศ ประเด็นการเร่งอัดฉีดงบประมาณและเซ็นสัญญาโครงการขนาดใหญ่ มูลค่ารวม 9 แสนล้านบาทของรัฐบาล รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 4/2558 และการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ช่วงปลายไตรมาสมีข่าวร้ายเซอร์ไพร์สวงการตลาดหุ้นไทย เมื่อบริษัท จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ไม่สามารถชำระค่าคลื่น 900 MHz ให้กับ กสทช. ได้ในระยะเวลาที่กำหนด แต่ส่งผลดีต่อผู้บริการรายอื่น เช่นADVANC, DTAC เนื่องจากผู้เล่นในอุตสาหกรรมลดลง รวมถึงกรณีที่รัฐมนตรีคลังเตรียมเสนอโครงการ "กิน-เที่ยว ช่วยชาติ" รอบ 2 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ ส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
สำหรับ DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไตรมาส 1/2559 เป็น DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ซึ่งมีการซื้อขายสูงถึง 36.0% ของการซื้อขาย DW ทั้งหมด โดย Call DW ได้รับความสนใจจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ดัชนี SET50 ทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 830 จุด รองลงมาเป็น DW อ้างอิงหุ้น PTT มีสัดส่วนการซื้อขาย 7.3% โดย Call DW ได้รับความสนใจจำนวนมากหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มยืนเหนือ 30 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล อันดับ 3 DW อ้างอิงหุ้น PTTEP มีสัดส่วนการซื้อขาย 7.0% โดยมีแรงซื้อ Call DW แน่นหลังหุ้น PTTEP มีสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้นชัดเจนตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/2559 มี DW ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งสิ้น 948 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 721 รุ่นและ Put DW 227 รุ่น เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นไตรมาส 4/2558 ที่มีจำนวน DW ที่ 885 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 654รุ่นและ Put DW 231รุ่น หลักทรัพย์อ้างอิง 108 ตัว โดยหลักทรัพย์บัวหลวงมีจำนวน DW สูงสุดในระบบคิดเป็น 19.09% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดและมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกสูงสุดคิดเป็น 59.26% รวมทั้งยังครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1อยู่ที่ 41.4% เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายการซื้อขายในไตรมาส 1/2559 และหากพิจารณาจากยอดถือครอง DW หลักทรัพย์บัวหลวงก็ยังเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เช่นกันโดยมีส่วนแบ่งตลาด 46.5%
นายบรรณรงค์ กล่าวอีกว่า หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนหลากหลาย โดยในวันที่ 11เมษายนนี้ บริษัทจะออกและเสนอขาย DW จำนวน 4 รุ่น ได้แก่ Call DW อ้างอิงหุ้นบริษัท กรุ๊ปลีซ (GL)และหุ้นของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยซึ่งมีการเสนอขาย DW ในหุ้นดังกล่าว โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นเดิม รวมทั้งออก DW ประเภท Call DW และ Put DW ที่อ้างอิง SET50 โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.blswarrant.com
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมาเกิดกรณีหุ้นอ้างอิงและDW ของ JAS ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP(Suspension) ห้ามซื้อขายเป็นเวลา 1 วัน ทำให้นักลงทุนกังวลกรณีถูก SP เป็นเวลานานจะกระทบกับ DW ที่นักลงทุนถือครองอยู่ ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงในฐานะผู้ออก DW จึงขอให้ข้อมูลนักลงทุน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในอนาคต แบ่งเป็น 2 กรณี โดยกรณีที่ 1 หากหุ้นอ้างอิงและ DW ถูกขึ้น SP ไม่เกินกว่าวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW นักลงทุนจะสามารถกลับมาซื้อขาย DW ได้ตามปกติ เนื่องจากผู้ออกฯ ยังมีกลไกดูแลราคา DW ตามปกติและตรวจสอบราคาที่เหมาะสมได้จากเว็บไซต์ของผู้ออกฯ แต่การถือ DW ข้ามเครื่องหมาย SP จะมีความเสี่ยงหากราคาหุ้นอ้างอิงเปิดกระโดดไปในทิศทางที่ไม่ได้คาดไว้ เนื่องจาก DW มีอัตราทด (Effective Gearing)นอกจากนี้หาก DW ถูกขึ้น SP เป็นเวลานาน อาจทำให้ DW มีมูลค่าลดลงจากการเสื่อมค่าเวลา (Time decay)นักลงทุนจึงควรติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นอ้างอิงอย่างใกล้ชิดและกำหนดจุดตัดขาดทุนของ DW กรณีที่ราคาไม่เป็นตามที่คาดการณ์ไว้
กรณีที่ 2 หุ้นอ้างอิงและ DW ถูก SP เกินกว่าวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW ซึ่งถือว่า DW ครบกำหนดอายุแล้ว นักลงทุนที่ถือDW จะได้รับเงินสดส่วนต่างจากการใช้สิทธิแบบอัตโนมัติผ่านเข้าบัญชีธนาคารภายใน 9 วันทำการนับจากวันที่ผู้ออก DW ประกาศราคาอ้างอิง โดยราคาอ้างอิงคำนวณเงินสดส่วนต่างจากการใช้สิทธิแบ่งเป็น 2 ราคา คือ 1)ราคาปิดของหุ้นอ้างอิงในวันแรกที่พ้นเครื่องหมาย SP ในกรณีที่หุ้นอ้างอิงถูกปลด SP ภายใน 30 วันหลังวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW และ 2) ราคายุติธรรมที่จัดทำโดยที่ปรึกษาการเงินอิสระที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เห็นชอบ โดยราคายุติธรรมจะต้องจัดทำไม่เกินกว่า 50 วันก่อนวันที่ผู้ออกฯ ประกาศ ในกรณีที่หุ้นอ้างอิงถูกปลด SP เกินกว่า 30 วันหลังวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW