กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี
สสว.จับมือ มทร.ธัญบุรี ผนึกกำลังช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs กลุ่ม Turn Around จำนวน 10,000 กิจการทั่วประเทศที่ทำธุรกิจแล้วยังไม่ประสบความสำเร็จ ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ร่วมกับ มทร.ธัญบุรี และภาคีที่เข้ามาร่วมดำเนินการอีก 2 หน่วยงาน คือ ธนาคารเอสเอ็มอี และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จัดอบรมสัมมนาให้กับผู้ประกอบการ SMEs "ปลุกพลัง SMEs พลิกวิกฤติ สร้างโอกาสสู่ความสำเร็จ" ภายใต้โครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs สนองนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุน โดยร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการและจัดที่ปรึกษา เพื่อวินิจฉัย ให้คำปรึกษาเชิงลึก และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทั่วภูมิภาค เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นที่จังหวัดสงขลา โดยมีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อให้ SMEs มีแนวคิดในการพัฒนาจัดการธุรกิจให้เป็นระบบ สามารถจัดทำแผนพัฒนาและฟื้นฟูธุรกิจ และต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงนวัตกรรม (2) เพื่อให้ SMEs สามารถวิเคราะห์สภาพปัญหาและแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นได้ตรงจุด เพื่อนำไปต่อยอดการพัฒนาได้อย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับสภาพปัญหา (3) เพื่อให้ SMEs มีผลิตภาพ (Productivity) และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงนวัตกรรม และ (4) เพื่อเตรียมความพร้อมการสนับสนุนด้านการเงินเสริมสภาพคล่องในโครงการระยะต่อไป
"โครงการดังกล่าวนี้จะเร่งช่วยเหลือ SMEs กลุ่ม Turn Around 10,000 กิจการทั่วประเทศ โดยจะส่งที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญเข้าไปวินิจฉัยให้คำปรึกษา SMEs เป็นรายกิจการ เพื่อเสนอแนวทางการปรับแผนธุรกิจ การปรับปรุงกิจการ ซึ่งอาจเป็นในด้านการลดต้นทุนการผลิตหรือบริการ การนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการ ให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทั้งนี้เพื่อทำให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถประคองตัวอยู่รอด มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น และเตรียมพร้อมเพื่อการแข่งขันในอนาคตอย่างยั่งยืนได้" รศ.ดร.ประเสริฐ กล่าว
เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ น.ส.สาเหร๊าะ หมัดศรี อายุ 50 ปี เจ้าของธุรกิจขายไก่สด ตลาดสดพลาซ่า 3 ที่ดำเนินธุรกิจแบบครอบครัวมากว่า 20 ปี แต่ประสบปัญหาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ เข้ามาขายไก่ ทั้งขายปลีก-ขายส่ง ตีตลาดแทบทุกพื้นที่ แถมขายในราคาที่ถูกกว่า จึงทำให้ลูกค้าลดหายไปจากเดิมมาก เช่น คนขายข้าวแกง คนขายไก่ทอด ซึ่งเราจะขายแบบพวกเขาไม่ได้ เพราะต้นทุนเราสูง เรารับมาอีกทีหนึ่งจึงสู้ไม่ไหว ดิฉันอยากได้คำแนะนำ และวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจไก่สด สามารถ อยู่รอดและขายต่อไปได้ จึงเข้าร่วมโครงการ
เช่นเดียวกับ น.ส.อรทัย จันทร์ทอง อายุ 40 ปี เจ้าของร้านเบนซ์การเบาะ รับหุ้มเบาะและตกแต่งภายในรถยนต์ อ.หาดใหญ่ เล่าว่า เมื่อก่อนเราขายของได้ ลูกค้าส่วนมากเป็นกลุ่มคนขายรถมือสอง แท็กซี่ และวัยรุ่น โดยจะเปลี่ยนเป็นเบาะหนังมากกว่า ซึ่งสวยทนทาน ทำความสะอาดได้ง่าย แต่ลูกค้าลดลงไปเยอะ อีกทั้งต้นทุนหรือวัสดุที่รับมาก็สูงขึ้นมาก ราคาขายจึงต้องเพิ่มขึ้น ทำให้ขายได้ยากขึ้นปัจจุบันไม่มีลูกจ้างแล้ว โดยจะทำกันเองกับสามีเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย วันนี้เลยมาพบอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหา หาทางออกนำไปประยุกต์ในการดำเนินธุรกิจ หาโอกาสทางธุรกิจและเครือข่าย
นายเดชา มีสุวรรณ เจ้าของเกาะยอโฮมสเตย์ ต.เกาะยอ ผู้บุกเบิกธุรกิจโฮมสเตย์แห่งแรกของจังหวัด เล่าว่า หากเป็นช่วงเทศกาลโดยเฉพาะฤดูร้อน อย่างเดือนเมษายน จะมีลูกค้าจับจองที่พักล่วงหน้าตลอด ถ้าเป็นช่วงโลว์ซีซั่นก็ค่อนข้างเงียบ ตนทำโฮมสเตย์ในลักษณะครอบครัว เน้นบรรยากาศแอบอิงธรรมชาติและอนุรักษ์วัฒนธรรมของชาวเกาะยอ ตนมีวิถีชีวิตแบบบ้านๆ ความรู้น้อย แต่มีประสบการณ์ โฮมสเตย์แห่งนี้ไม่ได้ใช้การโฆษณาแต่อย่างใด หากเป็นเพียงการบอกเล่าปากต่อปาก อยากหาวิธีการเพิ่มช่องทางการสื่อสารการตลาดให้มากยิ่งขึ้นจึงเข้าร่วมโครงการ
ทายาทรุ่นที่ 2 หจก.มิตรยานยนต์มอเตอร์ น.ส.สิริพร แซ่ตั้ง หรือ "ไนท์" วัย 24 ปี เล่าว่า ตนเองและพี่น้องต้องช่วยกันดูแลธุรกิจ นับเป็นช่วงส่งต่อธุรกิจจากคุณพ่อที่ทำมานานกว่า 30 ปี ในตลาดสะเดา อ.สะเดา โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและชาวสวนยาง แต่ประสบปัญหาคือ ยอดขายลดลงกว่าเดิมมาก ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถจัดหารถเพื่อนำมาโชว์หน้าร้านให้มากขึ้นได้ รวมทั้งขาดความรู้และแนวคิดใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ จึงเข้ามาร่วมโครงการ หลังจากพบที่ปรึกษาแล้ว มั่นใจว่าจะช่วยธุรกิจ สู้ภาวะเศรษฐกิจไปสู่ความสำเร็จได้ โดยได้รับคำแนะนำเบื้องต้นในลักษณะการเป็นร้านขายและซ่อมรถมอเตอร์ไซค์แบบครบวงจร หรือ"ศูนย์บริการ" ขายทั้งรถและอะไหล่ ทั้งยังให้บริการเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์ เช่น ตรวจสภาพรถ เช็ดระยะหรือล้างรถ
โครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs นี้ นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาชน เพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนในกลุ่ม Turn Around ปลุกพลังและสร้างโอกาสสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ และเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ผู้สนใจสามารถสอบถาม โทร. 02 549 3079 หรือดูรายละเอียดที่http://smechampion.info