กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--IR network
บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) ส่งซิกผลงานช่วงที่เหลือของปีนี้ยังฮอต! จากงานโทรคมนาคมหนุนเต็มที่ และการฟื้นตัวของธุรกิจเทรดดิ้ง ดันรายได้ปี"59 พุ่งแตะ 5,300 ล้านบาทตามเป้า หรือเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15-20% "สมพงษ์ กังสวิวัฒน์" ระบุขณะนี้ตุนงานในมือไว้เพียบกว่า 1,300 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยประมูลเพิ่มต่อเนื่อง ดันผลงานโตตามเป้า
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมมาสแรก โดยศักยภาพการเติบโตยังคงมาจากการขยายตัวของงานด้านโทรคมนาคมจากการประมูลใบอนุญาต 4G และการฟื้นตัวของธุรกิจเทรดดิ้งที่มีออเดอร์เข้ามาอย่างสม่ำเสมอตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ธุรกิจไอทียังคงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมประมาณ 1,300 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่มาจากงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมประมาณ 500 ล้านบาท ธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ คือ 5,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 15-20% โดยบริษัทยังคาดหวังจะได้รับงานจาก TRUE , DTAC และ AIS อย่างต่อเนื่อง
"แนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เพราะได้แรงหนุนจากงานโทรคมนาคมที่ถือว่าคึกคักมาก แต่อาจจะมีการแข่งขันที่ดุเดือด ขณะเดียวกันยังต้องจับตาดูความไม่แน่นอนเรื่องของใบอนุญาต4G จาก JAS ซึ่งคาดว่าจะมีการประมูลใหม่ในเดือนมิถุนายน 2559 ส่วนธุรกิจเทรดดิ้งคาดว่าน่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งตามภาวะเศรษฐกิจและออเดอร์ที่มีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทฯ ยังมีโปรเจกต์ในอนาคตอีกมากมายที่เตรียมเข้าประมูลทั้งการลงทุนในต่างประเทศ การประมูลงานภาครัฐอื่นๆ ซึ่งจะช่วยหนุนภาพรวมธุรกิจของบริษัทให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น "นายสมพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งหลังปี 2558 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยบริษัทฯได้จ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท ดังนั้นเมื่อนำปันผลระหว่างกาลดังกล่าวมารวมกับการจ่ายปันผลในครั้งนี้ รวมเป็นการจ่ายปันผลทั้งสิ้นในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นจำนวนรวม 223 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 101% ของกำไรสุทธิและกำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ
โดยวันที่กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นมีสิทธิรับเงินปันผล คือ วันที่ 21 เมษายน 2559 ให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 22 เมษายน 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 4 พฤษภาคม 2559