กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--นานมีบุ๊คส์
สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์จัดงานครบรอบ 10 ปี การ์ตูนความรู้ ฉลอง 1 ทศวรรษแห่งการสร้างนิสัยรักการอ่านของเด็กไทย ในงานพบกับเรื่องราวอันเป็นที่สุดของการ์ตูนความรู้นานมีบุ๊คส์ ล้วงลับล้วงลึกเรื่องที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน และร่วมตะลุยกิจกรรมสุดมันจากการ์ตูนดังชุดต่างๆ อาทิ บุกบ้านผีสิงสยองขวัญ จากชุด เรื่องผีๆ รอบโลก, Survival Game เอาชีวิตรอดสุดมันในดินแดนอันตราย, ล่าขุมทรัพย์คำสาปฟาโรห์ บุกพีระมิด ไขปริศนานานาประเทศ, เกมวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ จากชุด WHY การ์ตูนความรู้ที่ขายดีไปทั่วโลก, เกมแฟนพันธุ์แท้การ์ตูนความรู้นานมีบุ๊คส์ โดยมีนักเขียนและนักวาดจากการ์ตูนความรู้เล่มโปรด อาทิ อินกับทราย, มนต์ชัย, ASDJ, ครูคีธ-นภัทร์ อิชยาวณิชย์, และสิริน มาร่วมพบปะนักอ่าน ณ ห้อง Meeting Room 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่า "นานมีบุ๊คส์นำการ์ตูนความรู้เข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว โดยหวังเติมเต็มช่องว่างให้กลุ่มนักอ่านเยาวชนอายุระหว่าง 6-12 ปีที่ต้องการหนังสือที่มีมากกว่าความรู้ คือทั้งได้ความรู้และความบันเทิงคู่กันซึ่งจะทำให้เด็กรักการอ่านมากขึ้น
นานมีบุ๊คส์คัดสรรการ์ตูนความรู้ที่เป็นที่นิยมจากประเทศเกาหลี เนื่องจากที่นั่นมีรัฐบาลให้การสนับสนุนการจัดทำ มีทีมงานวิชาการตรวจสอบข้อมูล และมีทีมวาดที่คัดสรรมาแล้วว่าดี เพราะเขาก็หวังให้เยาวชนเกาหลีรักการอ่านเช่นกัน และเมื่อนำมาแปลเป็นฉบับภาษาไทยก็ได้มีการตรวจสอบ ปรับเปลี่ยนข้อมูลให้เหมาะสม และเลือกใช้ภาษาไทยที่ถูกหลักก่อนที่จะตีพิมพ์ทุกเล่ม จึงมั่นใจได้ว่าการ์ตูนความรู้นานมีบุ๊คส์ทุกเล่มเป็นหนังสือที่มีคุณค่า เด็กอ่านแล้วได้ทั้งความบันเทิงและความรู้ควบคู่กันไปอย่างแน่นอน รวมถึงยังมีกิจกรรม hands-on ฝังอยู่ท้ายเล่มด้วย เพราะเราเชื่อเรื่องการอ่านก้าวต่อไปสู่การปฏิบัติจริง เมื่อเราทำงานด้วยมือเท่านั้นเราถึงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้
ชุดแรกที่นำเข้ามาคือ ชุดเอาชีวิตรอด เล่มเอาชีวิตรอดบนเกาะร้าง ในตอนทำตอนแรกเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย เพราะคุณพ่อคุณแม่ยังเป็นกังวลว่าการ์ตูนจะดีเหรอ รวมถึงร้านหนังสือก็ยังไม่ยอมให้เรานำไปวาง หากวางจะวางหมวดไหนมีให้เลือกระหว่างหมวดนิทาน หรือหมวดวิทยาศาสตร์ เราต้องพยายามเอาชนะความคิด และอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมรับคือโรงเรียน โรงเรียนไม่อนุญาตให้นำการ์ตูนความรู้ไปขายในโรงเรียนเลย แต่เทรนด์การอ่านก็ได้เปลี่ยนไปตามวิวัฒนาการของโลก ตอนนี้การ์ตูนความรู้เป็นหมวดสำคัญมากของร้านหนังสือ และเป็นหนังสือที่มีเกือบมากที่สุดในห้องสมุดแล้ว
หลังจากที่เราพิมพ์หนังสือของเกาหลีเป็นจำนวนมาก ก็ได้มีการทำงานร่วมกับนักเขียนและวาดการ์ตูนไทย ล่าสุดออกมา 2 ชุด คือ ชุด ล่าขุมทรัพย์อาเซียน และชุด อัศวินพิทักษ์ไดโนเสาร์ ซึ่งได้รางวัลจากกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงเล่ม ผีไทย ก็ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก และตอนนี้มีสำนักพิมพ์ต่างประเทศสนใจซื้อลิขสิทธิ์ไปจัดพิมพ์ เป็นการตอกย้ำว่านานมีบุ๊คส์เป็นผู้นำหนังสือการ์ตูนความรู้อย่างแท้จริง
สำหรับกิจกรรมในงานครั้งนี้ ล้วนคัดสรรมาจากการ์ตูนความรู้ที่ได้รับความนิยมจากเด็กทั้งสิ้น โดยเด็กๆ จะได้รับความสนุกจากเกมต่างๆ รวมทั้งได้ใช้ความคิดในการเล่นสนุกอีกด้วย อย่างเช่น ซุ้มบุกบ้านผีสิงสยองขวัญ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือชุดเรื่องผีๆ รอบโลก เมื่อเด็กเข้าไปในซุ้มนี้ก็จะต้องใช้ความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือทายว่าผีตัวนี้เป็นผีจากประเทศอะไร หรือเกมบันไดงูเอาชีวิตรอด ก็ต้องใช้ความรู้วิทยาศาสตร์และไหวพริบในการเอาชีวิตรอด เพื่อตอบปัญหาและแข่งกันเข้าเส้นชัยให้ได้ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการกระตุ้นเด็กให้ใช้ความคิดจากการอ่านหนังสือการ์ตูนความรู้
คิม กล่าวทิ้งท้ายถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เด็กได้พบหนังสือเล่มโปรดว่า "เรื่องการส่งเสริมการอ่านเป็นประเด็นที่นานมีบุ๊คส์ใส่ใจมาก หลายคนคิดว่าเด็กไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ แต่นานมีบุ๊คส์มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าทุกคนรักการอ่าน เพียงแต่เด็กบางคนยังไม่เจอหนังสือที่เขาชอบ เพราะฉะนั้นบทบาทของผู้ปกครองจะต้องทำให้เด็กเจอหนังสือที่หลากหลาย ด้วยความมุ่งหวังว่าจะต้องเจอเล่มโปรดสักเล่มหนึ่ง เราจึงมองว่าการ์ตูนความรู้เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะเป็นก้าวแรกให้ลูกหลานเรารักการอ่าน และพอเด็กๆ อ่านจบจะมีก้าวต่อไป คือ ไปอ่านหนังสือเสริมความรู้ หรืออ่านหนังสือแนววรรณกรรมเยาวชน เพราะฉะนั้นการ์ตูนความรู้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จำเป็นมากๆ จึงอยากจะฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ว่าหนังสือเป็นสิ่งที่ควรลงทุนอย่างมาก ไม่ต้องกลัวเปลือง เพราะลูกของคุณจะได้อ่านแล้วอ่านอีก และอ่านครั้งที่หนึ่งกับครั้งที่ยี่สิบจะได้ความรู้ที่ไม่เหมือนกัน คือการศึกษาลงทุนไว้ไม่น่าจะเสียหาย"
น้องไตเติ้ล-ด.ช.จิราวัฒน์ ใจทหาร อายุ 9 ขวบ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกรุงเทพพิธยา หนึ่งในแฟนการ์ตูนความรู้นานมีบุ๊คส์ กล่าวว่า "ผมชอบอ่านการ์ตูนความรู้ตั้งแต่อนุบาล 2 ซึ่งเรื่องที่ชอบที่สุดคือ ครอบครัวตึ๋งหนืด เพราะว่าตลก สนุก และได้ความรู้ เรื่องครอบครัวตึ๋งหนืดสอนผมเรื่องการประหยัด เช่น ก่อนจะซื้ออะไรควรคิดทบทวนมากกว่า 10 ครั้ง"
น้องโฟลค์-ด.ญ.ภาพตะวัน อาจหาญ อายุ 11 ปี ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี กล่าวถึงหนังสือการ์ตูนความรู้ที่ชื่นชอบว่า "หนูอ่านการ์ตูนความรู้ตั้งแต่ 8 ขวบ ชอบอ่านการ์ตูนความรู้เอาชีวิตรอดในประเทศต่างๆ ในเล่มจะสอนวิธีการเอาชีวิตรอดในเหตุการณ์ต่างๆ ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เล่มที่ชอบที่สุดคือเอาชีวิตรอดในมหาสมุทร อ่านแล้วรู้ว่าเวลาตกเรือจะต้องว่ายน้ำอย่างไรให้รอดชีวิต และหากมีฉลาดจะเอาชีวิตรอดอย่างไร"
การ์ตูนความรู้นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการส่งเสริมนิสัยการรักการอ่านของเด็กไทยในปัจจุบัน ขอเพียงแค่ผู้ปกครองให้การสนับสนุนตั้งแต่วันนี้ พฤติกรรมการอ่านหนังสือของคนไทยจะเพิ่มขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน