กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอเดินหน้าบริการข้อมูลการลงทุนออนไลน์ครบวงจร เผยโฉมหน้า 3 เว็บไซต์น้องใหม่ www.investmentthailand.com www.b-intellgence.net และ www.i-expertnet.com ให้ข้อมูลเชิงลึกด้านการลงทุนครบวงจรในภูมิภาค พร้อมเป็นดัชนีเตือนภัยทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นสื่อกลางในการจัดหาผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการลงทุนที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและครบวงจรรองรับบทบาทใหม่
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ โดยเน้นการใช้องค์ความรู้เพิ่มมากขึ้น ทำให้การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารมีความสำคัญ ดังนั้นในส่วนของบีโอไอ จึงได้ปรับบทบาทแนวทางการปฏิบัติงานในอนาคต เพื่อให้เป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารและความรู้แก่นักลงทุนเป็นหลัก ด้วยระบบเทคโนโลยีที่สมัยใหม่ เพื่อช่วยให้การทำงานถูกต้องรวดเร็วยิ่งขึ้น และมีข้อมูลเพียงพอในการสนับสนุนการลงทุน ของนักลงทุนไทย และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การพัฒนาระบบการให้บริการข้อมูลข่าวสารผ่านสื่ออินเตอร์เนตของบีโอไอ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2538 โดยจากการจัดทำเว็บไซต์ www.boi.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่นิตยสาร CORPORATE LOCATION ในเครือ EURO MONEY จัดอันดับให้เป็นเว็บไซต์ด้านการลงทุนดีเด่นอันดับที่ 5 จากจำนวนเว็บไซต์ของหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนกว่า 100 แห่งทั่งโลก ในปี 2543 โดยปัจจุบันมีอัตราผู้เข้าชมมากถึง 2 แสนหน้าต่อเดือน
นอกจากนี้ ในปี 2542 บีโอไอยังได้รับมอบหมายจากหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนอาเซียน ให้เป็นผู้พัฒนาฐานข้อมูลอุตสาหกรรมสนับสนุนของอาเซียน หรือ ASEAN Supporting Industy Database (ASID) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่รวบรวมรายชื่อบริษัทต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศใน 5กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีพลาสติกและกระดาษ แม่พิมพ์ และอื่นๆ เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ www.asidnet.org เพื่อแสดงศักยภาพและความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมสนับสนุนของอาเซียน และเป็นช่องทางในการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิ้นส่วน รวมทั้งช่วยขยายช่องทางการตลาดของผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลกด้วย
ข้อมูลการลงทุนระดับภูมิภาค
นายจักรมณฑ์กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการลงทุนที่ครบวงจร และครอบคุลมไปถึงข้อมูลในระดับภูมิภาค บีโอไอจึงได้จัดทำระบบฐานข้อมูลสารานุกรมด้านการลงทุนภูมิภาคนี้จะเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ www.investmentthailand.com
แนวทางปฏิบัติงานของบีโอไอ จะมีการปรับให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทั้งของภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันระหว่างประเทศ และสอดคล้องกับการสร้างประสิทธิภาพของหน่วยงานราชการด้านการให้บริการ โดยการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารที่สะดวกรวดเร็วทุกระดับประกอบการตัดสินใจลงทุน และเว็บไซต์นี้ก็เป็นวิธีหนึ่งของการสนับสนุนการลงทุนแก่ภาคธุรกิจ ทั้งกิจการที่ได้รับการส่งเสริมและไม่ได้รับการส่งเสริม " นายจักรมณฑ์กล่าว
ระบบฐานข้อมูลสารานุกรมด้านการลงทุนภูมิภาค ที่ทำการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ มีองค์ประกอบของข้อมูลพื้นฐานรายจังหวัด ตั้งแต่เศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด โครงสร้างพื้นฐาน ประชากรและแรงงาน การเกษตร การประมง แร่ธาตุ การปศุสัตว์ การหัตถกรรม การอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง บริการและการท่องเที่ยว การพาณิชย์กรรมและการตลาด สถาบันการเงิน ปัจจัยพื้นฐานทางสังคม ศาสนา นโยบายที่สนับสนุนหรือที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ตลอดจนศักยภาพการลงทุนของจังหวัด
ในช่วงแรก ฐานข้อมูลนี้จะครอบคลุมในพื้นที่ 18 จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มุกดาหาร สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช และจะครอบคลุมทุกจังหวัดภายในปี 2547
B-BIG ดัชนีเตือนภัยเศรษฐกิจ
สำหรับเว็บไซต์ใหม่เว็บที่ 2 รองบีโอไอ www.b-intellgence.net คือโครงการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจระดับสูง หรือ B-BIG (BOI Business Group ) ซึ่งเป็นการราวกลุ่มของนักธุรกิจระดับผู้บริหารของบริษัทที่ดำเนินการในประเทศ เพื่อให้เป็ฯสูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารความสนใจที่เป็นประโยชน์ระหว่างกัน ตลอดจนร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านการสำรวจความคิดเห็นและการร่วมประชุมสัมมนา สำหรับข้อมูลที่ได้มาจะมีการนำมาวิเคราะห์ถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และสภาวะการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถบ่งชี้ถึงความเคลื่อนไหวและแนวโน้มของดัชนีสำคัญๆ ทางเศรษฐกิจได้
ทั้งนี้ การสำรวจความคิดเห็นของโครงการ B-BIG นั้น ให้ความสำคัญกับข้อมูล 2 ส่วนคือ ส่วนแรกสอบถามผลการประกอบธุรกิจของแต่ละบริษัทในปัจจุบันในเดือนข้างหน้า และส่วนที่สองสอบถามภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต โดยจะทำการสำรวจเป็นประจำทุกๆ เดือน เพื่อให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการนี้ทำให้สามารถประเมินบรรยากาศการดำเนินธุรกิจและการลงทุนประเทศในแต่ละช่วงรวมทั้งยังสามารถเป็นดัชนีเตือนภัยทางเศรษฐกิจของประเทศจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการทำสำรวจด้วย
บีโอไอช่วยเอสเอ็มอีไทย สร้างขุมกำลังทรัพยากรมนุษย์
สำหรับเว็บไซต์น้องใหม่เว็บสุดท้ายคือ www.i-expertnet.com เป็นคลังข้อมูลด้านผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจจะมาลงทุนในไทย หรือแม้แต่ผู้ที่เข้ามาลงทุนแล้วแต่ยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถค้นหาและติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญตามความต้องการ เพื่อช่วยลดปัญหาขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญให้กับผู้ประกอบการในประเทศ
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทที่มาจากต่างประเทศ แต่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งกว่า 50 % เป็นผู้ประกอบการไทย บีโอไอจึงต้องการที่จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการลดช่องว่างด้านองค์ความรู้ของผู้ประกอบการไทยที่ไม่สามารถแสวงหาผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ หรือ ขาดความรู้ความชำนาญในการประกอบธุรกิจในแต่ละประเภท"เลขาธิการบีโอไอกล่าว
นอกจากนี้ เว็บไซต์ www.i-expertnet.com ยังเป็นช่องทางให้กับบรรดาผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมด้วย โดยสามารถสมัครเข้ามาทางเว็บไซต์ให้ผู้ประกอบการตัดสินใจและติดต่อให้มาร่วมงานกันในอนาคต ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีผู้เชี่ยวชาญให้กับสถานประกอบการต่างๆ ในประเทศไทย โดยไม่ต้องการค่าตอบแทนในอัตราที่สูงมากนัก
ทั้งนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมในเว็บไซต์ www.i-expertnet.com บีโอไอได้ รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่มีบริการในลักษณะเป็นการจัดหาผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆอาทิ สวทช. สถาบันเพิ่มผลผลิต สถาบันยานยนต์ สถาบันไทย-เยอรมัน และองค์การต่างประเทศ โดยบีโอไอ ได้รวบรวมข้อมูลดังกล่าวในหลากหลายสาขาอาชีพมาไว้ในเว็บไซต์นี้--จบ--
-นห-