กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค
ฟูจิตสึเผยได้ทำสัญญามูลค่า 4.6 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 276 ล้านบาท ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม ประเทศอังกฤษ เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม ที่จะช่วยให้สาธารณชนเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงภัยน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นและทำความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนได้
ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ฟูจิตสึ สำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักทรัพยากรธรรมชาติแห่งเวลส์ ได้ประสานความร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม จากจุดเริ่มต้นในรูปแบบระบบลงทะเบียนรับแจ้งเตือนทางโทรศัพท์พื้นฐานสู่ระบบแจ้งเตือนแบบหลากหลายช่องทางซึ่งครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมที่มีอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 1.2 ล้านแห่ง โดยระบบในปัจจุบันจะส่งข้อความมากกว่า 20 ล้านข้อความให้กับสาธารณชนและศูนย์บริการด้านสาธารณภัยต่างๆ เพื่อช่วยลดผลกระทบของภัยน้ำท่วมและสร้างความมั่นใจว่าทั้งชุมชน หมู่บ้าน และย่านธุรกิจที่อยู่ในความเสี่ยงจากภัยน้ำท่วมจะได้รับการแจ้งเตือนโดยตรง
ระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมของสำนักสิ่งแวดล้อมได้นำเทคโนโลยีดิจิตอลล่าสุดที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเวอร์ชวลไรเซชันบนคลาวด์ ซึ่งจะช่วยสร้างแพลตฟอร์มระบบแจ้งเตือนแบบ Warning-as-a-service ขึ้น ซึ่งขยายขอบเขตการให้บริการในการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมให้กับสาธารณชนทั้งในระดับบุคคล ชุมชนหรือองค์กรธุรกิจได้มากขึ้น ระบบจะช่วยให้สาธารณชนมีเวลาเตรียมตัวรับมือกับภัยน้ำท่วมได้เร็วขึ้นและสะดวกมากขึ้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายของสำนักสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับระบบเดิมได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์
ปัจจุบันประชาชนจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล์หรือข้อความด่วน ซึ่งพร้อมด้วยหมายเลยติดต่อกลับสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ข้อความแจ้งเตือนเหล่านี้ยังส่งไปให้กับสื่ออื่นๆ อาทิ เช่น หน่วยกู้ภัย ศูนย์บริการฉุกเฉิน และองค์กรพันธมิตรที่มีส่วนรับผิดชอบด้านต่างๆ เช่น หน่วยงานภาครัฐท้องถิ่น เพื่อทำหน้าที่แจ้งเตือนให้กับสาธารณชนรับทราบถึงความเสี่ยงและช่วยจัดเตรียมประสานงานความช่วยเหลือในลำดับต่อไป
ระบบใหม่นี้ยังให้ถูกใช้งานโดยสำนักทรัพยากรธรรมชาติแห่งเวลส์เพื่อแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมให้กันประชาชนราว 100,000 รายที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดแม่น้ำและน้ำท่วมชายฝั่งทะเลในเวลส์ ดังนั้นในการเตรียมความพร้อมรับระบบใหม่ สำนักทรัพยากรธรรมชาติแห่งเวลส์จำเป็นต้องทำงานร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดหากองทุนและพัฒนาระบบใหม่
ระบบใหม่จะเข้าถึงช่องทางดิจิตอลได้มากกว่าเดิม อาทิ โซเชียลมีเดีย เป็นการปรับปรุงระบบและเสริมความสามารถใหม่ให้ตอบโจทย์ความคาดหวังของสาธารณชนผู้ซึ่งอยู่ในยุคดิจิตอล สาธารณชนสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันติดตั้งบนสมาร์ทโฟนของตนเพื่อรับแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมด้วยข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นผ่านทางช่องทางที่แต่ละคนชื่นชอบ จึงช่วยให้พวกเขาได้รับข้อมูลและมีเวลาเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ นอกจากนี้ยังใช้การแจ้งเตือนแบบเดิมผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์พื้นฐานด้วย จึงถือได้ว่าโซลูชันของฟูจิตสึเพื่อสำนักสิ่งแวดล้อมนี้ได้รวมการเชื่อมต่อทุกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม เปิดทางเลือกให้ประชาชนรับทราบการแจ้งเตือนได้เองในช่องทางที่คุ้นเคย ในเวลาที่ต้องการได้ในทุกที่ทุกเวลา
"การแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมถือเป็นข่าวสารสำคัญของชีวิตผู้คนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เพราะช่วยให้พวกเขามีเวลาที่จะเตรียมการ ปกป้องทรัพย์สินและอพยพตนเองและครอบครัวให้ปลอดภัย" เครก วูลเฮ้าส์ รักษาการผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารจัดการภัยพิบัติ สำนักสิ่งแวดล้อม อธิบายเพิ่มเติม "บริการฟรีของเรานี้ให้ประโยชน์แก่ผู้คนมากกว่า 1.2 ล้านราย และด้วยระบบใหม่นี้ยังเพิ่มช่องทางที่ประชาชนจะเลือกรับการแจ้งเตือนได้ครอบคลุมมากขึ้นด้วย การแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมช่วยรักษาชีวิตได้ และเรายังคงสานต่อความพยายามในการปรับปรุงและเสริมความสามารถการให้บริการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้มีเวลาเตรียมตัวรับมือมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ"
มร.แอนดี้ วอลล์ ผู้จัดการความเสี่ยงภัยน้ำท่วม สำนักทรัพยากรธรรมชาติแห่งเวลส์ กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำในแม่น้ำ การเกิดน้ำท่วมในเวลส์นั้นเกิดขึ้นได้บ่อยและรวดเร็วมาก ดังนั้นการเตรียมระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมในสถานการณ์เช่นนี้เราจึงต้องการระบบที่สามารถแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ให้กับผู้คนของเราทั้งในรูปแบบภาษาอังกฤษและภาษาเวลส์ ดังนั้นเราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประสานงานร่วมกับฟูจิตสึและสานต่อความสำเร็จที่เราเคยทำไว้ร่วมกันในช่วงที่ผ่านมา"
"ฟูจิตสึมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติทำงานร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อมและสำนักทรัพยากรธรรมชาติแห่งเวลส์เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม และตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิตอลของประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ" มร.สตีเวน ค็อซ ผู้อำนวยการบริหารและรองประธาน ส่วนงานภาครัฐ ประจำสหราชอาณาจักรและไอซ์แลนด์ ฟูจิตสึ กล่าวว่า "จากประสบการณ์ที่ทำงานร่วมกันมาเพื่อจัดสร้างระบบบริการที่มีความยืดหยุ่นสูงเช่นนี้ กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า ความร่วมมือเช่นนี้ช่วยปรับเปลี่ยนระบบที่สร้างขึ้นจากหนึ่งในหลายๆ ความสามารถหลักของเรา ทั้งเทคโนโลยีคลาวด์และดิจิตอลนั้น ช่วยสร้างความแตกต่างและคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดีขึ้นได้"